เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายสนธิกำลังบุกจับมอดไม้ ในป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย จ.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายสนธิกำลังบุกจับมอดไม้ ในป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย จ.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายสนธิกำลังบุกจับมอดไม้กลางป่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.พิทักษ์  อุทัยธรรม ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.๔ บก.ปทส.,พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.4 บก.ปทส. และ พ.ต.ท.กันต์พงษ์ สุวรรณคีรี สว.กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด,ลำพูน นำโดย ด.ต.คมชาญ     เหรียญทอง ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส. หัวหน้าชุดฯ ด.ต.สยาม ทรัพย์ทวี,ด.ต.ชิษณุพงศ์ ประวัง และ ด.ต.ชินโชติ        สุขนิมิตร ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.ที่ ๓๓ โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.อภิชาติ รักพงษ์ ผกก.ตชด.๓๓ พ.ต.ท.ผดุงเกียรติ ปัณฑรนนทกะ รอง ผกก.ตชด.33, เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด/จับกุม นำโดย ร.ต.อ.สุรกาญจน์ มูลมอญ หน.ชปข.กก.ตชด.33, ด.ต.จอมภพ ภูทองโปร่ง, ด.ต.พงศพัศ ใจมวน และ ส.ต.ท.พงศกร ศิริ ผบ.หมู่ กก.ตชด.33 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอมก๋อย โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.ท.สามารถ บุญตันสา รอง ผกก.ป.สภ.แม่วาง รรท.ผกก.อมก๋อย, พ.ต.ท.สันติภาพ โชติพันธุ์ รอง ผกก.สส.สภ.อมก๋อย เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด/จับกุม นำโดย พ.ต.ท.สมชาย ก้านชมภู สวป.สภ.อมก๋อย, พ.ต.ต.อวิรุทจน์ ยอดยา สว.สส.สภ.อมก๋อย, ร.ต.อ.ศุภณัฎฐ์ ไตรโกษิยะกูล รอง สว.สส.สภ.อมก๋อย, ร.ต.อ.สรายุทธ พรมธิ รอง สว.สวป.สภ.อมก๋อย, ส.ต.ต.ธวิวัฒน์ สุภาษี ผบ.หมู่ (ป) สภ.อมก๋อยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม. 22 (ปางโอ่งโม้ง) นำโดย นายกิ่ง แก้วกัน และนายลิขิต ธนาธิติวุฒิ

ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายผวัน ลีลอย อายุ 41 ปี หมู่ที่ 8  ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่  ผู้ถูกจับที่ 1 พบอยู่บริเวณรถยนต์ของกลางในที่เกิดเหตุ 2.นายชาละวัน บุญบวรนันท์ อายุ 35 ปี หมู่ที่ 8  ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่  ผู้ถูกจับที่ 2 พบอยู่บริเวณรถยนต์ของกลางในที่เกิดเหตุ เส้นทางลำลองในป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ท้องที่บ้านทุ่งจำเริญ หมู่ที่ 3 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่

ของกลาง-ไม้สนเขาแปรรูป จำนวน 31  แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.43 ลบ.ม. คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 8,600.- บาท (แปดพันหกร้อยบาทถ้วน)

อุปกรณ์ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้ใช้ในการกระทำความผิด

-รถยนต์ส่วนบุคคล (กระบะบรรทุก) ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอกซ์ สีเขียว ทะเบียน บน 8195 เชียงใหม่      เลขตัวรถ แอลเอ็น85-7056236 เลขเครื่องยนต์ 2แอล-9222622 จำนวน 1 คัน ประเมินราคาเป็นเงิน จำนวน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)

โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดต่อบทบัญญัติพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ 

-มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 ฐาน “ร่วมกันทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

-มาตรา 48 ประกอบมาตรา 73 ฐาน  “ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

-มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พฤติการณ์แห่งคดี

ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.พิทักษ์  อุทัยธรรม ผบก.ปทส. และ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.๔ บก.ปทส. ได้รับข้อมูลข่าวสารจากผู้หวังดีต่อทางราชการ (ขอปกปิดนาม) ประสงค์เงินรางวัลสินบนนำจับ แจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อบทกฎหมายที่มีโทษทางอาญาในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ท้องที่ ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.4 บก.ปทส. และ พ.ต.ท.กันต์พงษ์ สุวรรณคีรี สว.กก.4 บก.ปทส. ผู้ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ราชการในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 5 ให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด,ลำพูน ดำเนินการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบเป็นความผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบ นั้น

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33 ได้ร่วมกันออกตรวจสืบสวนข้อเท็จจริงตามสั่งการ ซึ่งได้ออกตรวจลาดตระเวนในป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ท้องที่บ้านทุ่งจำเริญ หมู่ที่ 3 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่ ตรวจพบต้นไม้ถูกตัดโค่น และพบร่องรอยการแปรรูปไม้ด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ในป่าเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบไม่พบบุคคล สัตว์เลี้ยง พาหนะ หรืออุปกรณ์การแปรรูปไม้ใดๆ อยู่บริเวณดังกล่าว พบตอไม้ กิ่งไม้ ปลายไม้ และเศษไม้หลงเหลืออยู่ในป่าที่เกิดเหตุ ตรวจสอบไม่พบไม้แปรรูปหลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ น่าเชื่อว่าผู้กระทำความผิดได้ทำการชักลากไม้ขนเคลื่อนย้ายออกไปจากป่าที่เกิดเหตุแล้ว ในป่าบริเวณที่ตรวจพบตอไม้ และร่องรอยการแปรรูปไม้ดังกล่าวมีถนนซึ่งเป็นเส้นทางลำลองที่มีอยู่ในป่าเป็นจำนวนมาก

หลายเส้นทาง น่าเชื่อว่าผู้กระทำความผิดทราบความเคลื่อนไหวการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่จึงได้หลบหนีไปก่อน

วันนี้ (30 พ.ย.2563 ) เจ้าหน้าที่ดังกล่าวข้างต้นได้สนธิกำกลังกัน ออกตรวจลาดตระเวนโดยใช้รถยนต์ของทางราชการตำรวจ บก.ปทส. ตรวจลาดตระเวนไปยังพื้นที่ป่าเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อตรวจมาถึงบริเวณเส้นทางลำลองในป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ท้องที่บ้านทุ่งจำเริญ หมู่ที่ 3 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่ พบมีรถยนต์กระบะบรรทุก จำนวน 1 คัน จอดอยู่บริเวณถนนลำลองที่มีอยู่เดิมในป่าที่เกิดเหตุ สังเกตพบมีไม้แปรรูปบรรทุกอยู่ที่กระบะรถ ลักษณะไม้แปรรูปวางพาดบนคอกเหล็กเสริมกระบะบรรทุก ไม่พบบุคคลใดอยู่ในรถที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มองเห็นมีรถกระบะบรรทุกอีกคันหนึ่งจอดอยู่บริเวณใกล้ๆ กับที่ตรวจพบรถยนต์คันแรก สังเกตพบมีไม้แปรรูปบรรทุกอยู่ที่กระบะรถ ลักษณะไม้แปรรูปวางพาดบนคอกเหล็กเสริมกระบะบรรทุก พบชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน อยู่บริเวณท้ายรถ ปรากฏว่าเมื่อชายกลุ่มดังกล่าวมองเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่วิ่งไล่กวดติดตามจับกุมตัวได้ จำนวน 2 คน ทราบชื่อในเวลาต่อมาดังนี้.-

1.นายผวัน ลีลอย อายุ 41 ปี หมู่ที่ 8  ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่

2.นายชาละวัน บุญบวรนันท์ อายุ 35 ปี หมู่ที่ 8  ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่

บุคคลอื่นๆ ที่หลบหนีการจับกุมไปนั้น เจ้าหน้าที่ไม่เคยพบเห็นและไม่เคยรู้จักมาก่อน มองเห็นแต่ด้านหลังตั้งแต่ระยะไกลๆ มองไม่เห็นใบหน้าจึงไม่ทราบว่าบุคคลที่หลบหนีไปนั้นเป็นผู้ใด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว แสดงความบริสุทธิ์ต่อหน้าผู้ถูกจับทั้งสองคนจนเป็นที่พอใจดีแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ ให้บุคคลทั้งสอง/ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาทราบ ก่อนแล้วดังนี้

1.ผู้ถูกจับ มีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้

2.ถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้

3.ผู้ถูกจับ มีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ

4.ถ้าผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งให้ญาติ หรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมที่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวกและไม่เป็นการขัดขวางการจับหรือการควบคุมผู้ถูกจับ หรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดเจ้าพนักงานสามารถอนุญาตให้ผู้ถูกจับดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี

สอบถามนายผวัน ลีลอย กับนายชาละวัน ลีลอย ถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด นายผวันฯ อธิบายชี้แจงให้ถ้อยคำว่า ตนกับพวกรวมจำนวน 6 คน ได้ร่วมกันมาชักลากไม้ออกจากป่าที่เกิดเหตุ ไม้แปรรูปทั้งหมดเป็นของนายจะมู ราษฎรบ้านยองกือ หมู่ 8 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จว.เชียงใหม่ ซึ่งนายจะมูได้ว่าจ้างตน (นายผวันฯ) ชักลาก/ขนไม้แปรรูปดังกล่าวไปส่งที่บ้านของนายจะมู ตนจึงนำรถยนต์ส่วนบุคคล (กระบะบรรทุก) ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอกซ์        สีเขียว ทะเบียน บน 8195 เชียงใหม่ มาบรรทุกไม้ดังกล่าวออกจากป่าที่เกิดเหตุ โดยตกลงทำสัญญาจ้างทางวาจาเป็น

เงินจำนวน 1,500 บาท ตนกับนายชาละวัน ลีลอย และบุคคลอื่นๆ ซึ่งได้วิ่งหลบหนีการจับกุมไปนั้นนำรถยนต์จำนวน 3 คัน มาบรรทุกไม้แปรรูปที่กองซุกซ่อนอยู่ในป่าใกล้ๆ กับบริเวณที่ถูกจับกุมเพื่อนำไปส่งให้กับนายจะมู เจ้าหน้าที่ได้สอบถามว่าเจ้าของ/ผู้ครอบครองรถยนต์คันที่บรรทุกไม้หรือพยายามที่จะบรรทุกไม้แปรรูปออกจากป่ามีรถยนต์อะไรบ้าง อย่างไร นายผวันฯ ชี้แจงให้ถ้อยคำต่อไปว่า รถยนต์กระบะบรรทุกจำนวน 3 คัน ได้แก่ (1) รถของตนเอง (2) รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผบ 9348 เชียงใหม่ คันที่บรรทุกไม้แปรรูปจอดอยู่ก่อนที่จะถึงรถยนต์ของตนเอง และ (3)รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ดีโฟร์ดี ทะเบียนจดจำไม่ได้ รถยนต์ของนายจะมู

นายชาละวัน ลีลอย ให้ถ้อยคำว่า ตนมาช่วยนายผวันฯ ยกไม้ขึ้นรถ ตนไม่ทราบว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้สอบถามบุคคลทั้งสองคนว่า ตนทราบหรือไม่ว่าบุคคลที่หลบหนีการจับกุมไปนั้นเป็นผู้ใดบ้าง อย่างไร นายผวันฯ อธิบายชี้แจงว่า “บุคคลที่หลบหนีไปนั้นมีจำนวน 4 คน ตนไม่ทราบชื่อ ชื่อสกุลจริง แต่ตนสามารถชี้ตัวบุคคลได้”

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบไม้แปรรูปที่ตรวจพบอยู่บนรถยนต์ส่วนบุคคล (กระบะบรรทุก) ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอกซ์ สีเขียว ทะเบียน บน 8195 เชียงใหม่ พบไม้แปรรูปชนิดไม้สนเขา ผิวเนื้อไม้ผิวไม่เรียบมีร่องรอยการแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ ไม้แปรรูปมีลักษณะใหม่ ดิบ หัวไม้และปลายไม้ไม่ปรากฏรูปรอยตราของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือรูปรอยตราอื่นใด ตี ตอก ประทับไว้แต่อย่างใด ไม้แปรรูปไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้อื่นใดมาก่อน บริเวณที่เกิดเหตุมีต้นไม้ชนิดสนเขา ไม้เหียง ไม้พลวง ขึ้นอยู่โดยกำเนิดตามธรรมชาติเป็นผืนป่าที่คงมีสภาพเป็นผืนป่าที่มีความอุมดมสมบูรณ์ มีระบบนิเวศป่าไม้เป็นศูนย์รวมความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ ซึ่งทางราชการกรมป่าไม้ได้ประกาศให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 93 ตอนที่ 12 เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2519 ซึ่งตลอดเส้นทางเข้าป่าจะพบมีแผ่นป้ายของกรมป่าไม้ปิด ประกาศแสดงพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อยอยู่ตลอด

คณะเจ้าหน้าที่ตรวจได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของนายผวันฯ นายชาละวันฯพร้อมกับพวกซึ่งได้หลบหนีการจับกุมไปนั้น ผู้ถูกจับกุมตัวได้ในที่เกิดเหตุ กับพวกที่ได้หลบหนีไปนั้น ได้กระทำต่อไม้สนเขา ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามในบัญชีไม้หวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 ลำดับที่ 134 นั้น

ในชั้นตรวจสอบ ตรวจยึด และจับกุม เจ้าหน้าที่ทำการตรวจไม้แปรรูป มีชนิดไม้สนเขา หัวไม้และปลาย ไม่ปรากฏรูปรอยตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือรูปรอยตราอื่นใดตีประทับไว้ที่บริเวณหัวไม้ ปลายไม้แต่อย่างใด ไม้แปรรูปมีลักษณะใหม่ ดิบ ไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้อื่นใดมาก่อน การกระทำดังกล่าวของ   นายผวันฯ กับพวก พบอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอมก๋อย และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบตอไม้ และร่องรอยการแปรรูปไม้อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติปาอมก๋อย การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นความผิดต่อบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484   สำหรับไม้สักท่อน มีความผิดต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 11 และมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติ

ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 จึงแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายแก่นายผวัน ลีลอย กับนายชาละวัน บุญบวรนันท์ ทราบว่าได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาข้างต้น ในชั้นจับกุม นายผวันฯ และนายชาละวันฯ ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

คณะเจ้าหน้าที่ได้จึงได้ร่วมกันทำการตรวจวัดไม้ จัดทำบัญชีไม้ จัดทำบัญชีอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งตรวจพบอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.อมก๋อย  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยมอบให้ ด.ต.คมชาญ  เหรียญทอง  ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส. เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และ ส.ต.ท.พงศกร  ศิริ ผบ.หมู่ กก.ตชด. 33 เป็นพยานตามลำดับ

ของกลางซึ่งเป็นไม้แปรรูปหวงห้าม อาศัยอำนาจตามข้อตกลงระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง “ระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับ ของกลางในคดีความผิดเกี่ยวกับการป่าไม้ พ.ศ. ๒๕๓๓” คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจวัดความโต ความยาว นับจำนวน คำนวณปริมาตรไม้ และคิดค่าเสียหายของรัฐ โดยใช้รูปรอยดวงตรา ต.11492 ย.668 ตีประทับไว้ที่ไม้ไว้เป็นสำคัญ ตรวจยึดไม้หวงห้ามแปรรูปดังกล่าวไว้เป็นของกลาง (รายละเอียดตามบัญชีไม้ของกลางแนบท้ายบันทึกนี้)

ในการประเมินค่าเสียหายทางแพ่ง เกี่ยวกับรายการไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ทางราชการกรมป่าไม้ สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้มีหนังสือที่ ทส.1605.43/16099 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2560 เรื่อง รายงานผลการจัดทำรายละเอียดประเมินมูลค่าความเสียหายบรรดาไม้และของป่า ถึงผู้อำนวยการสำนักฯ ทั่วประเทศ กรมป่าไม้ได้จัดทำบัญชีราคาไม้แปรรูปของไม้หวงห้าม

อนึ่ง  ในการตรวจยึด/จับกุมครั้งนี้  คณะเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายโดยสุจริต มิได้บังคับ ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำ การด้วยประการใดให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย มิได้ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน มิได้ทำให้ทรัพย์ของผู้ใดเสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ และมิได้ข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นซึ่งทรัพย์สิน เงินทอง หรือประโยชน์อื่นใดผู้ใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นแต่อย่างใดเป็นความจริง

 

 

ข่าวอาชญากรรม