วันที่ 22พ.ค.64
สาวใหญ่มุสลิมใช้ปืน HK-33 กระหน่ำยิงขึ้นฟ้า เข้าพบตำรวจรับข้อกล่าวหาแล้ว
จากกรณีสาวใหญ่มุสลิมแต่งชุดสวยงามยืนหน้าบ้าน
ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.จะก๊วะ อ.รามัน จ.ยะลา แล้วใช้อาวุธปืน HK-33 กระหน่ำยิงขึ้นฟ้าหลายนัด เสียงปืนดังสนั่น พร้อมด้วย รอยยิ้มและความสุข ทำให้มีสื่อโซเชียลและสังคมออนไลน์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายกลุ่มมีการแชร์คลิปวีดิโอจำนวนมาก จนเกิดวิภาควิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
และความไม่ปลอดภัยของคมกระสุน “มัจจุราชไร้เงาปลิดชีพคนได้”
ล่าสุด วันนี้ 22 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง รรท.สวญ.สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้เรียกตัว นางอาซือเมาะ หะสีแม อยู่ที่ 45 หมู่ที่ 2 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อมาพบและให้นำอาวุธปืนที่ใช้ในวันเกิดเหตุ ตลอดจนพยานที่ถ่ายคลิปมาพบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยนางอาซือเมาะ อ้างว่าเป็นการยิงปืนในวันเข้าสุนัตของหลานชาย เมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 ที่ผ่านมา แต่ด้วยในช่วงเทศกาลวันรายออีดิ้ลฟิตรี ฮ.ศ.1442 จึงมีการแชร์ภาพวีดีโอเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง
รรท.สวญ.สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เปิดเผยว่า
เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ทาง พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุก สภ.ในพื้นที่ จ.ยะลา ให้มีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียด จนพบว่าอยู่ในพื้นที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา จึงได้เรียกตัว นางอาซือเมาะ มารับ
ข้อกล่าวหา “ครอบครองอาวุธปืนสงครามที่ทางราชการไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้โดยผิดกฏหมาย ,พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร , ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และหากกระสุนปืนตกใส่คนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็อาจถูกดำเนินคดีในข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือหากสาหัส ก็อันตรายแก่กายจนสาหัส หรือหากตาย ก็จนถึงแก่ความตาย หากตกใส่ทรัพย์สินเสียหาย ก็อาจถูกดำเนินคดี ทำให้เสียทรัพย์ได้อีกส่วน”
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/