14 มิ.ย.64
ปศุสัตว์จังหวัดยะลา ลงพื้นที่ หลังพบโรคลัมปี สกิน ระบาดในวัว เร่งปูพรมในพื้นที่ควบคุมเข้ม หวั่นติดเชื้อวัวในท้องที่อื่นๆ
จากกรณีสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยะลา ได้ออกประกาศกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว ชนิดโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ในโคและกระบือ หลังมีการพบโรคดังกล่าว ในท้องที่บ้านท่าสาป หมู่ที่ 1 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดออกไปยังท้องที่ข้างเคียงหรือระบาดเข้ามาในท้องที่ได้ จากการเคลื่อนย้ายสัตว์ หรือซากสัตว์ที่เป็นโรคระบาด หรือพาหะของโรคระบาด
ล่าสุดวันนี้ 14 มิ.ย.64 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยะลา เผยข้อมูลสัตว์ในพื้นที่จังหวัดยะลา ปี 2564 มีเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ จำนวน 45,802 ราย ประกอบด้วย โคเนื้อ 17,407 ราย โคนม 1 ราย กระบือ 328 ราย หมู 51 ราย แพะ 13,605 ราย แกะ 723 ราย ไก่ 38,125 ราย
เป็ด 17,225 ราย นกกระทา 46 ราย และ สัตว์อื่นๆ 4,039
ราย ซึ่ง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยะลา พบว่าโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ของนายอมรศักดิ์ ไชยนาพงษ์ อายุ 63 ปี เจ้าของวัวในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ที่ได้เลี้ยงวัว จำนวน 7 ตัว เป็นโรคแล้ว จำนวน 2 ตัว โดยทาง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยะลา ออกมาตรการ ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์ ชนิดโค กระบือ หรือซากของสัตว์ดังกล่าว เข้า ออก ผ่าน หรือภายในเขตโรคระบาดสัตว์ชั่วคราว เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ประจำเขตนั้นทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย หากผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 22 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่ เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2564
นายอรรถพล แสนพันทา ปศุสัตว์จังหวัดยะลา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาได้ไปตรวจพบว่ามีเชื้อโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ประมาณทั้งหมด 6 ตัว ไปดูแลสอบถามเจ้าของวัวมี จำนวน 2 ราย ในอำเภอเมืองยะลา มาตรการก่อนหน้านี้มีข่าวอยู่แล้ว ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองยะลา ได้เฝ้าระวังกระทั่งไปให้ความรับรู้ความเข้าใจในการป้องกัน เรื่องขนส่งวัว การเคลื่อนย้าย พาหะเช่นแมลงเป็นพาหะนำโรค พ่นยากำจัดแมลงยาฆ่าเชื้อ หากมีอาการสงสัยว่าโคเป็นโรคนี้ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ในทั้งจังหวัดยะลา กว่า 17,000 ตัว ที่พบมี 6 ตัวซึ่งยะลาเป็นจังหวัดที่ยังไม่มากแต่ว่าพบเชื้อแล้วต้องรีบดำเนินการตรวจโรคเพื่อเฝ้าระวังดำเนินการติดตามสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในเรื่องของการป้องกัน สอดส่องช่วยกันดูแล เมื่อพบช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่รีบลงไปช่วยเหลือดำเนินการ เกษตรกรที่เลี้ยงโคในยะลาประมาณ 5,000 คน แต่ว่ากระจายไปทั่วจังหวัด ในบริเวณที่เกิดโรคห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ออกในรัศมี 50 กิโลเมตร ในพื้นที่จังหวัดที่เกิดโรค โรคนี้จะติดเฉพาะโคกับกระบือ สัตว์อื่นแม้กระทั่งคนไม่ติด ไม่ต้องกังวลในเรื่องของติด จะเป็นการแพร่ระบาดในโคกระบือเท่านั้น ในเรื่องของโรคเป็นโรคระบาดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดมาเพิ่งมาเกิด ความรุนแรงของโรคการติดเชื้อเปอร์เซ็นต์การติดเชื้อ 45 เปอร์เซ็นต์ เมื่อสัตว์ติดเชื้อแล้วจะมีการตุ่ม มีการรักษาสัตว์ก็จะหายป่วย ส่วนเนื้อสัตว์สามารถนำไปบริโภคได้ แต่ว่าในกรณีของมีผู้ตระหนักว่าเนื้อบริโภคได้ไหม ตอบว่าบริโภคได้แต่ในสัตว์ที่รักษาอยู่ควรจะงดก่อนที่จะบริโภค 30 วัน เนื่องจากสภาพของซากสัตว์ เมื่อสัตว์ได้รับการรักษาแล้วสารตกค้างในเนื้อสัตว์ไม่ควรบริโภคประมาณ 30 วัน ฝากเกษตรกรช่วยกันป้องกันควบคุมในเรื่องของการเฝ้าระวังในเรื่องของลดเคลื่อนย้ายสัตว์ การกำจัดพาหะนำโรค เช่น แมลงวัน แมลงวี่ เป็นต้น
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/