หนุ่มวัย 33 ปี เจอวิกฤตโควิดในเมืองกรุง กลับยะลาบ้านเกิด พันตัวเองปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สร้างรายได้เกือบ 1.5 หมื่น ต่อเดือน

หนุ่มวัย 33 ปี เจอวิกฤตโควิดในเมืองกรุง กลับยะลาบ้านเกิด พันตัวเองปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สร้างรายได้เกือบ 1.5 หมื่น ต่อเดือน

27 ก.ย.64

หนุ่มวัย 33 ปี เจอวิกฤตโควิดในเมืองกรุง กลับยะลาบ้านเกิด พันตัวเองปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สร้างรายได้เกือบ 1.5 หมื่น ต่อเดือน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดกระแสหวาดกลัวโควิดเป็นกันทุก หย่อมหญ้า หลายคนถูกพักงานหยุดอยู่บ้าน ส่วนหนึ่งถูกกักตัวรอดูอาการ บ้างก็หนีเชื้อร้าย
กลับไปบ้านเกิด อีกกลุ่มมีอันต้องตกงานกลับถิ่นฐานจากพิษเศรษฐกิจอีกด้วย
วันนี้ 27 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวและทีมงานลงพื้นที่ตะลุยหาแปลงผักในพื้นที่บ้านทุ่งยามู
หมู่ที่ 4 ต.ยโป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมืองยะลา ก็ไปเจอกับ
แปลงผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ ของนายวชิรวิทย์ เมืองสุวรรณ อายุ 33 ปี ซึ่งอยู่ภายในบริเวณบ้านพักเลขที่ 52/2 หมู่ที่ 4 ต.ยโป อ.เมืองยะลา ก็ที่มีชาวบ้านในพื้นที่
และในพื้นใกล้เคียงแวะเวียน
มาซื้อผักสลัด(แบบเคลือบ)
สายพันธุ์จากประเทศเนเธอร์แลนด์ มีทั้ง กรีนโอ๊ค,เรดโอ๊ค,บัตเตอร์เฮด,
เรดบัตเตอร์เฮด,กรีนคลอรัล, เรดคลอรัล,กรีนคอส,เรสคอส,มินิคอส,เรดบัตตาเวียร์,ฟินเล่ย์,สลัดมิกซ์ เอาใจคนชอบกินผักสลัดเพื่อสุขภาพและนำผักสลัดไปขายต่อให้กับลูกค้าต่างๆอีกด้วย ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองได้เกือบ 15,000 ต่อเดือด ทำให้สามารถสู้วิกฤตโควิด-19 นำเงินเข้าครอบครัวในช่วงนี้ได้
นายวชิรวิทย์ เมืองสุวรรณ อายุ 33 ปี เจ้าของแปลงผักสลัด เล่าว่า คำว่าผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นการใช้ระบบน้ำ ไม่ได้ปลูกในดิน เริ่มแรกคือตนเองทำงานที่ย่านถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ เมืองกรุง
เป็นร้านอาหาร ซึ่งตอนนั้นทางร้านให้ทดลองปลูกผักพอเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตนเองตัดสินใจกลับมาอยู่ที่ยะลาบ้านเกิด ตนเองก็เห็นว่าพื้นที่บ้านน่าจะสามารถปลูกผักได้ เลยลองดูทันที
คือจุดเริ่มต้นของการปลูก ผักตอนแรกที่ปลูกเป็นงาน
อดิเรกเหมือนกับว่าต้องหาอะไรทำในช่วงโควิด-19 พอลองปลูกผักแบบนี้ ในรอบแรกไม่ได้ปลูกเพิ่อขาย โดยการใช้วิธีการแจกให้กับเพื่อนบ้านค้างเคียง ก็แจกจ่ายได้ประมาณหนึ่งรอบ พอหลังจากนั้นก็มีคนมาขอซื้ออยู่ตลอด แรกไม่ได้ทำอุปกรณ์มากมายสักเท่าไหร่
เน้นการใช้อุปกรณ์ที่หาในบ้านทั่วๆไป ใช้กะละมังพลาสติกไปก่อน เริ่มเรียนรู้ศึกษาขึ้นไปเรื่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มมีการวางโต๊ะ ใช้กล่องโฟมแทนกะละมังพลาสติก ช่วยในการรักษาอุณหภูมิคุณภาพของน้ำอีกด้วย
นายวชิรวิทย์ เล่าอีกว่า หลายๆคนที่ปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ ก็คงคิดว่าจะต้องมีหลังคา ทำโรงเรือน แต่จริงๆตนเองคิดว่าถ้าเรารู้จักธรรมชาติของผัก ก็จะรู้ว่าสามารถทนต่ออะไรได้ หรือว่าชอบอะไรมากน้อยแค่ไหน อีกอย่างใช้วิธีการเพาะต้นกล้าให้แข็งแรงมากๆเพราะว่าต้นกล้าจะต้องอยู่กลางแจ้ง ต้องเจอทั้งแดดทั้งฝน เพราะฉะนั้นถ้าต้นกล้าแข็งแรงจะทนได้ สำหรับตนเองได้ปลูกผักสลัดหลายประเภท เช่น กรีนโอ๊ค,เรดโอ๊ค,บัตเตอร์เฮด,
เรดบัตเตอร์เฮด,กรีนคลอรัล, เรดคลอรัล,กรีนคอส,เรสคอส,มินิคอส,เรดบัตตาเวียร์,ฟินเล่ย์,สลัดมิกซ์,สลัดแก้ว ก็จะปลูกผักวนสลับกันไปเรื่อยๆ ส่วนการขายไม่ได้ให้ลูกค้าจอง โดยใช้วิธีในการโพสต์ในเฟสบุ๊คของตนเอง ชื่อเพจ HydroPonic
ผักสลัด/ไฮโดรโปนิกส์
“อยากให้ทุกคนแข็งแรงเหมือนผักที่ผมปลูก”จะประกาศว่าจะเก็บผักได้วันไหน สำหรับลูกค้าที่สนใจก็จะต้องมาเก็บผักที่แปลงด้วยตนเอง จะได้กินผักสดๆ
สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 089-5982651

อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา

ข่าววาไรตี้-ท่องเที่ยว-อาชีพ