เลย-พาณิชย์คุมเข้ม ปล่อยขบวนคาราวานสายตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์และเครื่องวัดสินค้าเกษตร ของสถานรับซื้อสินค้าเกษตร ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อ.เชียงคาน จ.เลย กรมการค้าภายในลงพื้นที่ปล่อยขบวนคาราวานสายตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์และเครื่องวัดสินค้าเกษตรของสถานรับซื้อสินค้าเกษตร ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เวลา 10.30 น.วันที่ 6 พ.ย.2564 . ที่สำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 2-8 เลย ถนนเลย-เชียงคาน เลขที่ 123 บ้านแสนสำราญ ต.จอมศรี อ.เชียงคาน จ.เลย นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานพิธีเปิดอาคารสำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 2-8 เลย และปล่อยคาราวานตรวจสอบเครื่องชั่ง และเครื่องวัดสินค้าเกษตร ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ ประธานหอการค้าจังหวัดเลย ประชาชน สื่อมวลชนร่วมงาน จำนวนมาก
นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งรถยนต์และเครื่องวัดสินค้าเกษตรของสถานรับซื้อสินค้าเกษตรเป็นอีกหนึ่งภารกิจของกรมการค้าภายในที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 – มกราคม 2565 ที่มีผลผลิตทางการเกษตรทั้งข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา และอ้อย จะออกสู่ตลาด จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์และเครื่องวัดสินค้าเกษตร ของสถานรับซื้อสินค้าเกษตร เพิ่มเติมจากการออกตรวจสอบ ที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้วทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 3 – 13 พฤศจิกายน 2564 เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งรถยนต์ และเครื่องวัดสินค้าเกษตร และสร้างความเชื่อมั่น ให้กับเกษตรกรว่าจะได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ทั้งนี้อธิบดีกรมการค้าภายในยังแนะนำให้เกษตรกร สังเกตเบื้องต้นเพื่อรักษาสิทธิ์ ประโยชน์ของตนเอง ประกอบด้วย เครื่องชั่งรถยนต์และเครื่องวัดสินค้าเกษตรที่สถานรับซื้อใช้ชั่งหรือวัดในการรับซื้อ ต้องมีสติ๊กเกอร์วงกลมของกรมการค้าภายใน ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 จะเป็นสีเขียว และสีของสติ๊กเกอร์ จะเปลี่ยนไปทุกปี ตามปี พ.ศ. หาสติ๊กเกอร์ดังกล่าว ติดอยู่แสดงว่ามีการตรวจสอบแล้ว
เครื่องชั่งและเครื่องวัดสินค้าเกษตร ก่อนทำการชั่งหรือวัด เครื่องต้องเป็นเลขศูนย์ , เครื่องชั่งและเครื่องวัด ต้องแสดงผลให้เห็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย สำหรับการปล่อยขบวนคาราวานสายตรวจฯ ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดเลยในครั้งนี้จะจัดสายตรวจทั้งหมด 8 สายประกอบด้วย สายตรวจที่ 1 อ.ชุมแพ สีชมพู หนองเรือ จ.ขอนแก่น และ อ.ท่าลี่ จ.เลย สายตรวจที่ 2 อ.บ้านผือ น้ำโสม นายูง จ.อุดรธานี และ อ.สังคม ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย สายตรวจที่ 3 อ.นาวัง นากลาง จ.หนองบัวลำภู สายตรวจที่ 4 อ.วังสะพุง เอราวัณ จ.เลย สายตรวจที่ 5 อ.ภูเรือด่านซ้าย จ.เลย สายตรวจที่ 6 อ.คอนสาร ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และ อ.นาแห้ว จ.เลย สายตรวจที่ 7 อ.เมืองเลย นาด้วง เชียงคาน ปากชม จ.เลย และ สายตรวจที่ 8 อ.ภูกรดึง หนองหิน จ.เลย
ซึ่งในระหว่างวันที่ 3 – 13 พฤศจิกายน 2564 ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น จะจัดสายตรวจออกตรวจครอบคลุม 6 จังหวัดของภาคฯ คาดว่าจะสามารถดำเนินการตรวจสอบเครื่องชั่งและเครื่องวัดสินค้าเกษตรได้ไม่น้อยกว่า 1000 เครื่อง ตลอดจนการค้าชายแดนอีกด้วย
อธิบดีกรมการค้าภายในเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์มีความเชื่อมั่นว่าเกษตรกรจะได้รับความเป็นธรรม ในการใช้เครื่องชั่งรถยนต์และเครื่องวัดสินค้าเกษตร หากพบว่าสถานะรับซื้อสินค้าเกษตรใดหรือผู้ใดแก้ไขหรือดัดแปลง ส่วนประกอบของเครื่องชั่งตวงวัด หรือโปรแกรมที่ใช้กับเครื่องชั่งตวงวัด ในการรับซื้อสินค้าเกษตรให้มีความคลาดเคลื่อนเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดที่กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ทั้งนี้หากไม่ได้รับความเป็นธรรม รายการ ใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดในการรับซื้อสินค้าเกษตรที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
——————–//———————-
บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย