ร้อยเอ็ด… ขบวนการขนแรงงานต่างด้าว”หวังตบตาตำรวจ ใช้รถปรับอากาศชั้น 1 ประจำทาง ขนกันกลางวันแสกๆ แต่หนีไม่รอด
ขบวนการลักลอบนำแรงานต่างชาติหลบหนีเข้าเมือง ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ล่าสุดตำรวจร้อยเอ็ดตาไว จับขบวนการขนแรงงานชาวลาว เพื่อเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ได้ 24 ราย ตรวจพบทั้งหมดถูกนายหน้าซื้อตั๋วรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 สายกรุงเทพฯ- อุบลฯ หวังหลบหลีกการตรวจสอบจากเจ้าหน้า
วันที่ 11 พ.ย.2564 ที่ศูนย์ศปก.ภ.จว.ร้อยเอ็ดพล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.วันชัย วินทะสมบัติ รอง ผบก. พ.ต.อ. พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เสลภูมิ พ.ต.ท.อนุวัฒน์ บุญวิเศษ รองผกก.สืบสวน.สภ.เสลภูมิ ร่วมกันสอบสวนผู้ต้องหา นำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ก่อนจะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรน์ รอง ผบ.ตร ได้กำชับการปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้มงวด กวดขัน ตรวจตรา เฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าประเทศของแรงงานต่างด้าว ตามนโยบายการปิดประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาคของโรคติดเชื้อโควิด 19
จนทำให้สถานการณ์คลี่คลาย การแพร่ระบาด และผู้ติดเชื้อลดน้อยลง
ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 2564 รัฐบาลได้มีคำสั่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆเข้ามา เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่าได้มีการเคลื่อนไหวของแรงงานต่างตัาวจำนวนมากที่พยายามจะหลบหนีเข้ามาทำงานในประทศไทยโดยผิดกฎหมาย หากพบเห็นให้จับกุมดำเนินคดีและขยายผลหาตัวการ ผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือหรือผู้สนับสนุนในการลับลอบเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ตำรวจภูธรภาค 4 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 มีคำสั่งให้ตำรวจในสังกัดทุกจังหวัด ทุกสถานี ทำการกวดชัน จับกุมแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย และขยายผลจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดนั้น
ล่าสุดสันที่ผ่านมา พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ผกก.สภ.เสลภูมิ ทราบจากสายลับว่า จะมีการสักลอบชนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาตามแนวชายแดน ไทย- ลาว ผ่าน จ.อุบลฯ แล้วถูกพามาหลบซ่อนตัวอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน จ.อุบลฯ ผู้นำพาบอกทุกคนห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด จากนั้นผู้นำพาได้ติดต่อขอซื้อตัวรถปรับอากาศชั้น 1 กรุงเทพฯ- อุบลฯ และให้รถคันดังกล่าวไปรับผู้โดยสารนอกสถานี
หลังทราบข้อมูลจึงได้วางแผนจับกุม กระทั่งรถคันดัวกล่าววิ่งผ่านมาหน้าสถานีฯจึงเรียกให้หยุด ตรวจสอบภายในรถพบว่า มีแรงานสัญชาติลาวจำนวน 24 คน เป็นชาย 12 คนหญิง 12 คน ซึ่งเดินทางข้มาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมจับกุมนายสมชาย(นามสมมุติ) อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็นคนขับ และนายสมศักดิ์(นามสมมุติ) อายุ 38 ปี บริกรประจำรถคนประจำรถ ฐานเป็นผู้นำแรงงานต่างตัาวเข้ามาในประเทศ ขยายผลทราบว่า ผู้ที่ติดต่อนำแรงงานสัญชาติลาวเข้ามาคือนางติ๋ม(นามสมมุติ) และสามานางติ๋ม ชาว อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ก่อนติดตามจับกุมตัว ได้ที่ อ.เขมราฐ นอกจากนั้น
ยังตามจับนายสมชัย(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นนายท่า ของรถสายดังกล่าวด้วย
สอบถามชาวลาว ทราบว่า ได้มีนายหน้าคือนางติ๋ม และสามี (ไม่ทราบชื่อ อายุ)ได้ติดต่อพวกตนว่าใครอยากจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย ขณะนี้ไทยยังไม่เปิดประเทศ ถ้าจะเข้าตามขั้นตอนปกติจะยังเข้าไม่ได้ แต่ถ้าใครต้องการเข้าไปด้วยวิธีอื่นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายหัวละ 8,000 บาท ซึ่งเดิมนั้นจะจ่ายกันอยู่ที่หัวละประมาณ 4,000 บาท จึงพากันหลงเชื่อและนั่งเรือหางยาวข้ามฟากมาพร้อมกันจำนวน 2 ลำ แล้วขึ้นฝั่งที่ อ.เขมราฐ จากนั้นนางติ๋มและเครือข่ายได้นำรถกระบะไปรับ และพาไปเช่ารีสอร์ทแห่งหนึ่งใน พิ้นที่ อ.เมืองอุบลฯ จำนวน 2 ห้อง อยู่กันแบบอัดแน่น และขู่ว่าห้ามใครออกจากห้องเด็ดขาด ก่อนที่นางติ๋ม ได้ประสานนายท่ารถเพื่อขอซื้อตั๋วเหมือนผู้โดยสารทะวไป จากนั้นให้คนขับรถทัวร์ นำรถไปจอดรับแรางานข้างถนนห่างจาก บขส.ประมาณ 500 เมตร เพื่อพาทั้งหมดเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ
การจับกุมครั้งนี้มีมีผู้ต้องหาที่เป็นขบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจำนวน 4 คน ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายอันเป็นความผิด ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2522 การลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ผ่านช่องทางและวิธีการที่ถูกต้อง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและยังเสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศด้วย นอดจากนี้เจ้าหนเาที่จะขยายผบและตามยึดทรัพย์ผู้ต้องหาต่อไป
พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผบก. ภ.จว. ร้อยเอ็ด กล่าวย้ำอีกว่าในกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะส่งให้สำนวนให้อัยการสั่งฟ้องผู้กระทำผิด นำทรัพย์ที่ตรวจยึดได้ มาพิจารณาเป็นค่าเยียวยาสำหรับกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวลาวด้วยพร้อมสั่งการให้ทุก สภ. เข้มงวด กวดขันรถ ทุกชนิด รวมทั้งรถโดยสารประจำทางเพื่อป้องกันการกระทำ ผิดในลักษณะดังกล่าวอีก
///////////
ข่าว-วินัย