กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเกาะแต้ว ลดรายจ่ายวันละบาท ขับเคลื่อนมาครบ 15 ปี

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเกาะแต้ว ลดรายจ่ายวันละบาท ขับเคลื่อนมาครบ 15 ปี

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเกาะแต้ว ลดรายจ่ายวันละบาท ขับเคลื่อนมาครบ 15 ปี เป็นเครื่องมือพัฒนาคนยังก้าวเดินด้วยความมั่นคง ครอบคลุมสวัสดิการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนภาคราชการ

“การพัฒนาคน ใช้สวัสดิการเป็นเครี่องมือ เกิดสังคมดี คนมีความสุข”อุดมการณ์ของสัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาท เพื่อทำกองทุนสวัสดิการชุมชนของ ดร.ครูชบ ยอดแก้ว ครูภูมิปัญญาสวัสดิการชุมชน ผู้คิดและทดลองสัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาท ที่ก่อกำเนิดขึ้น 18 ปีที่แล้ว

แนวคิดใช้สัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาทจึงเกิดขึ้น เพื่อทำกองทุนสวัสดิการชุมชน เป็นเครื่องมือพัฒนาคน โดยมีเป้าหมาย สังคมดี คนมีความสุข โดยครอบคลุมสวัสดิการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนภาคราชการ

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขขลา ได้จัดตั้งขึ้นโดยนายอรัญ คงนวลใย อดีตผู้อำนวยการสถาบันกศน.ภาคใต้สงขลา โดยได้ประสานกับนายกเทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แกนนำ/ผู้นำชุมชน เชิญชวนในการจัดตั้ง จนมีประชาชนในตำบลเกาะแต้วให้ความสนใจและสมัครเป็นสมาชิกเริ่มต้น 310 คน จาก 10 หมู่บ้าน

ทำพิธีเปิดกองทุนสวัสดิการเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2549 โดย ดร.ครูชบ ยอดแก้ว ประธานมูลนิธิ ดร.ครูชบ-ปราณี ยอดแก้ว กรรมการและสมาชิกเข้าร่วม นางอภิญญา คงนวลใย ดำรงตำแหน่งประธานกองทุนฯ คนแรก

ดร.ครูชบ ยอดแก้ว กล่าวถึงการพัฒนาคนไว้ว่า มีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่องคือ ประการแรกคือพัฒนาคนให้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิด เน้นอนามัยส่วนบุคคล อนามัยสิ่งแวดล้อม ประการต่อมา พัฒนาคนให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เน้นการงานพื้นฐานอาชีพ และพัฒนาคนให้เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

พร้อมกับได้เขียนสุภาษิตเพื่อเตือนใจไว้บทหนึ่งว่า”จะปลูกพืชต้องเตรียมดิน จะกินต้องเตรียมอาหาร จะพัมนาการต้องเตรียมประชาชน จะพัฒนาคนต้องพัฒนาจิตใจ จะพัฒนาใครต้องพัฒนาตัวเองก่อน”

นายอรัญ คงนวลใย ประธานที่ปรึกษากองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลเกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา กล่าวถึงในโอกาสการจัดตั้งกองทุนมาครบ 15 ปีเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาว่า ดำเนินการมาด้วยความมั่นคง กรรมการทุกคนปฏิบัติงานด้วยความซื้อสัตย์สุจริต โดยเริ่มต้นจากสมาชิกประมาณ 310 คน ปัจจุบันมีสมาชิกรวม 3,653 คน

ตลอดระยะเวลา 15 ปี คณะกรรมการได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์เชิญชวน สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนทั้ง 10 หมู่บ้านจนมีสมาชิกเพิ่มจำนวนมากขึ้น ได้รับสวัสดิการด้านต่างๆ อย่างถ้วนหน้า การดำเนินการได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากรัฐบาล ผ่านกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.สงขลา และจากเทศบาลตำบลเกาะแต้ว

ณ วันนี้ปี 2564 กองทุนฯ ก็ได้เดินทางมาครบ 15 ปี ในการก้าวย่างปีที่ 16 นั้น ที่ต้องการให้กองทุนเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน สิ่งนี้เปรียบเหมือนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม สิงหาคม และกันยายน ที่ผ่านมา เป็นห้วงช่วงที่ประเทศของเราประสบกับโรคระบาดโควิด 19 ในตำบลเกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา สมาชิกกองทุนส่วนหนึ่งก็ได้ติดเชื้อโควิด 19 ด้วย

“เฉพาะเดือนตุลาคม ในพื้นที ต.เกาะแต้ว มีสมาชิกที่ติดเชื้อและอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้มาใช้สิทธืในการเบิกสวัสดิการถึง 82 ราย เป็นเงินถึง 70,723 บาท ตาย 3 ราย 34,000 บาท เดือนกันยายน ใช้สิทธิ์ 23 ราย 18,400 บาท ตาย 3 ราย 41,500 บาท เดือนสิงหาคม ค่ารักษาพยาบาล 12,800 บาท ตาย 5 ราย 102,500 บาท”

นี่คือสมาชิกของเราทั้งที่ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงและที่เสียชีวิต ที่ต้องเข้าไปเก็บตัวในโรงพยาบาลสนาม เมื่อครบ 14 วัน การดำเนินชีวิตขาดแคลน กองทุนจึงสนับสนุน 100 บาท/คืน แต่เบิกได้แค่ 10 คืน 1,000 บาท

“บางครอบครัวมีการใช้สิทธิมากกว่า 1 คน คือใช้สิทธิ 2 – 4 คน ซึ่งเงินส่วนนี้ที่กองทุนได้ช่วย นั่นคือการตอบโจทย์ใหกับพี่น้องในชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นหลักคิดของ ดร.ครูชบ ยอดแก้ว

และในโอกาสครบ 15 ปีและก้าวย่างต่อไป ผมและกรรมการกองทุนจะพพยายามที่จะสานต่อ และขอเชิญชวนพี่น้องในต.เกาะแต้วเข้ามาเป็นสมาชิกและใช้สิทธืสวัสดิการ ช่วยกันสานต่อและให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นครับ”

Photo : Report : #KasemLimaphan #เกษม_ลิมะพันธุ์ #สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม