พบเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.1 ฉีดไฟเซอร์เข็มสองได้สิบกว่าวันเกิดอาการไตวายเฉียบพลันโรงเรียนและผู้ปกครองโพสต์เฟชบุ๊กขอความช่วยเหลือจากโชลเชียล
จากกรณที่ทางคุณครูของโรงเรียนบ้านป่าเลา ต.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูนได้ขอความช่วยเหลือจากโลกโชลเชียลในจังหวัดลำพูนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของด.ญ.ศิริรัตน์ สูงพนา อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ของโรงเรียนดังกล่าวซึ่งเกิดอาการไตวายเฉียบพลันแต่ครอบครัวเป็นชาวเขาและยากจน
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 20 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบนายสุเธียร โกกา ผอ.โรงเรียนดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์นั้นเป็นเรื่องจริงโดย ด.ญ.ศิริรัตน์ นั้นเป็นนักกีฬาของโรงเรียนปกติร่างกายถือว่าแข็งแรงต่อมาได้ไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่แรกประมาณเดือน พ.ย.64 ที่ผ่านมาตอนแรกก็ไม่มีอาการใดๆจนกระทั่งไปฉีดวัคซีนเข็มที่สองเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.64 ซึ่งจากการสอบถามเด็กหญิงรายดังกล่าวก็ทราบว่าหลังฉีดวัคซีนเข็มที่สองมาแล้วก็เกิดอาการเหนื่อยหอบ หายใจติดขัดเรื่อยมากระทั่งต่อมาเกิดอาการหน้าบวม ขาบวมพ่อและแม่ได้พาตัวไปที่อนามัยใกล้บ้านก่อนที่จะถูกส่งตัวไป รพ.แม่ทาและ รพ.ลำพูน จนกระทั่งต้องส่งตัวไปที่ รพ.มหาราชเชียงใหม่ต้องเข้ารักษาในห้องไอซียู ปัจจุบันเด็กอาการดีขึ้นแต่ต้องกลายเป็นผู้ป่วยโรคไตวายต้องฟอกไต2-3 ครั้งต่ออาทิตย์ ทำให้ครอบครัวของเด็กได้รับความเดือดร้อนเพราะฐานะไม่ค่อยดีเท่าที่ควรจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากโลกออนไลน์ดังกล่าวเพราะว่าไตวายนั้นต้องรักษายาวมากซึ่งส่วนจะใช่สาเหตุมาจากวัคซีนหรือไม่ต้องรอผลจาก จนท.ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ด้านนางธัญชวรัตน์ วงศ์ธนพุฒิกร อายุ 48 ปี แม่บ้านที่ดูแลเด็กในหอพักของโรงเรียนดังกล่าวเปิดเผยว่าเด็กหญิงศิริรัตน์ ครอบครัวเด็กอยู่บนเขาสูงห่างจากโรงเรียนประมาณ 20 กม. จึงต้องมาพักอาศัยอยู่ที่หอพักหญิงของโรงเรียน เท่าที่เห็นหลังเด็กฉีดวัคซีนมาแล้วมีอาการหอบเหนื่อยเร็วกว่าปกติบางทีหายใจเร็วมากจนน่าตกใจ ซึ่งทางผู้ปกครองก็เชื่อว่าเด็กน่าจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการรับวัคซีน เพราะที่ผ่านมาเด็กร่างกายแข็งแรงมาก
