อั้นมานานกว่า3ปีเพราะโควิด ปีนี้ขอจัดเต็มที่ออกลวดลายในงานบุญบั้งไฟตำบลธาตุ
วันที่ 17 พฤษภาคม 2566เวลา 14.30น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนสายอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ – จังหวัดศรีสะเกษ หน้าโรงเรียนบ้านธาตุ ต.ธาตุ อำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้มีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลธาตุ ประจำปี 2566 ขึ้น โดยมี นายกานต์ กาญจนวงศ์สกุล นายอำเภอรัตนบุรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นางสาวระพีพรรณ วรฉัตร นายกกิ่งกาชาดอำเภอรัตนบุรี ซึ่งมีนางกิตติยา ธัญกิติตติชัย กำนันตำบลธาตุเป็นผู้กล่าวต้อนรับ นาย สมหวัง สันวัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลธาตุ เป็นผู้กล่าวรายงาน นายวันทอง นามวงศ์ษา อดีดกำนันตำบลธาตุดำรงค์ตำแหน่งนานถึง27ปีมาร่วมงานพร้อมกับผู้นำชุมชนทั้ง 14 หมู่บ้าน และประชาชน พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวนับหมื่นคน
ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ก็ได้มีขบวนนางรำจากชุมชนต่างๆมาร่วมงานจำนวน 14 หมู่บ้าน ซึ่งนับเป็นความร่วมมือของชุมชนอย่างดียิ่งครั้งหนึ่งตั้งแต่ที่เคยได้จัดงานมา และได้ว่างเว้นการจัดงานไปกว่า 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ครั้งนี้เกิดการตื่นตัวเป็นอย่างมากของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งครั้งนี้ แต่ละหมู่บ้านก็ได้จัดกันมาอย่างเต็มที่ อย่างชนิดที่ว่า จัดทั้งทีอย่าให้น้อยหน้าใคร ต่างพากันระดมทั้งนางรำและนักเต้นนับพันคน ออกมาร่วมโชว์กันสุดมันส์
ไม่ว่าจะเป็นสีสันล้อการเมือง และความเชื่อของงานประเพณีบุญบั้งไฟ พร้อมทั้งขบวนบั้งไฟที่ประดับอย่างสวยงามตระการตาแต่ที่โดดเด่นก็จะเป็นบ้านธาตุหมู่ที่2เป็นการแสดงที่นำเอาความเป็นมาตำนานบุญบั้งไฟมานำเสนอประกอบการเล่าและแสดงสอดแซรกความสนุกสนานให้ผู้ชมตื่นตาอย่างต่อเนื่อง
การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่แต่ละหมู่บ้าน ต่างพากันจ้างรถแห่ค่ายดังมาร่วมประชันกันในแต่ละขบวนอย่างไม่ยอมแพ้กัน และที่สุดของงานก็คือ ขบวนสุดท้าย ที่ขนเอารถแห่ชื่อดัง คือ “สาวน้อย เพชรบ้านแพง” มาประชันปิดท้ายขบวนด้วย ทำให้บรรดานักเต้นทั้งหลายรวมทั้งนักท้องเที่ยว ต่างแห่กันออกมาเต้นในท้ายขบวนกันอย่างสุดมันส์ ด้วยความสนุกสนาน
ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนต่างบอกว่า งานปีนี้ตำบลธาตุนับว่าจัดได้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นจัดงานมา ไม่แพ้ในระดับจังหวัดเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะเป็นได้ว่า อั้นกันมาหลายปี พอมาปีนี้เขาให้จัดงานได้ ก็เลยต่างพากันจัดเต็มที่ และก็หวังว่าจะมีการจัดให้ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกในปีหน้า ซึ่งก็จะพากันกลับมาเที่ยวที่นี่อีกอย่างแน่นอน.
ภาพข่าว/สุรเดช เหลาคำ