ครูสร้างรายได้เสริมด้วยการเพาะไข่ตั๊กเเตนขายกิโลละหมื่น!

ครูสร้างรายได้เสริมด้วยการเพาะไข่ตั๊กเเตนขายกิโลละหมื่น!

สุรินทร์ เพาะแมลงกะโน๊บขาย สร้างรายได้งาม
2สามี-ภรรยาอาชีพครู ใช้เวลานอกราชการ สร้างรายได้เสริมด้วยการเพาะไข่ตั๊กเเตนขายกิโลละหมื่น! ออร์เดอร์มาไม่ขาดสาย มีเท่าไหร่ก็ส่งขายไม่เพียงพอ

 

22 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวประจำจ.สุรินทร์ รายงานว่า เเต่ก่อนตั๊กแตนหรือที่่ชาวสุรินทร์พูดภาษาเขมรเรียกว่า”กะโน๊บ”ถือเป็นแมลงที่ถูกขนานนามว่าเป็นศัตรูพืชอันดับต้น ๆ ของชาวเกษตรกร เพราะพวกมันจะเข้ามากัดกินและทำลายพืชผลทางการเกษตร จึงทำให้ต้องใช้วิธีฉีดพ่นยาฆ่าแมลงแทน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ได้รับผลผระทบตามมาก็คือคนที่ต้องบริโภคผลผลิตเหล่านั้นที่อาจะเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากยาฆ่าแมลงเข้าสู่ร่างกาย

เเต่ปัจจุปันนี้กลับกลายมาเป็นอาชีพสร้างรายได้อีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่สนใจ ที่เลี้ยงตั๊กเเตนขาย
นี่ก็อีกหนึ่งตัวอย่าง ที่ผู้สื่อข่าวได้มาพบ คุณสมพงษ์ เชื้อทองอายุ53ปี เเละคุณมณีวรรณ เชื้อทองอายุ51ปี 2สามีภรรยาอาชีพครูประชาบาล ได้ ตัดสินใจใช้บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านกาเเฟเล็กๆ หลังร้านทำซุ้มสวนองุ่น ณ บ้านเลขที่9หมู่10 บ.พรหมสะอาด ต.พระเเก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ บ้านติดถนนหลัก สาย24 ระหว่างเส้นทางสังขะ-ขุขันธ์ มาทดลองเป็นสถานที่เลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า เพื่อหวังสร้างอาชีพใหม่ทำรายได้ให้กับครอบครัวอีกหนึ่งช่องทาง โดยศึกษาวิธีเลี้ยงมาจากสื่อออนไลน์แล้วติดต่อขอซื้อไข่ตั๊กแตนมาทดลองเลี้ยงจนเริ่มประสบความสำเร็จรวมไปถึงการเพาะพันธุ์เพื่อขายต่อตามท้องตลาดที่ตอนนี้มีออร์เดอร์มาไม่ขาดสาย เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ก็ไม่พอขายเลยทีเดียว

ครูสมพงษ์ เชื้อทอง กล่าวว่า ตนเเละภรรยามีอาชีพรับราชการครู มีลูกสาว2คนคิดหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองเเละให้ลูกได้มีรายได้ จึงอยากทดลองเลี้ยงอะไรใหม่ๆปกติก็เปิดร้านกาเเฟ ชื่อโฮมสละนกาเเฟสดเเละการเลี้ยงวัว13ตัว เเละสวนองุ่น ซึ่งใช้เวลานอกราชการมาทำอาชีพนี้ นอกจากนี้ยังเลี้ยงวัวเสริม เนื่องจากการเลี้ยงวัวนั้นค่อนข้างหนักเกินไป ขณะที่ตนเเละภรรยาก็มีอายุมากแล้ว จึงศึกษาผ่านทางโลกโซเซียลจนมาพบวิธีการเพาะเลี้ยงตั๊กแตน จึงทดลองสั่งซื้อหามาเลี้ยงไว้ ซื้อมา1ขีด ขีดละ1,000บาท เพาะได้3,000- 5,000 ตัว จากนั้นก็ให้ตั๊กแตนที่เพาะได้ผสมกันเองแล้วออกมาไข่รุ่นใหม่มาแล้วก็ขยายพันธุ์ต่อ เเต่ระวังพวกมดที่จะมากินซากตั๊กเเตนถ้ากินก็จะตายยกคอก โดยเริ่มต้นจากการเลี้ยงเพื่อเอาไว้กินเอง แต่ล่าสุดมีคนสนใจสั่งตั๊กแตนทางออนไลน์สั่งซื้อมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตอนนี้ก็เริ่มที่จะได้ส่งขายอย่างต่อเนื่อง

โดยขั้นตอนของการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังกาโม หรือตั๊กแตนพื้นถิ่นนั้น(กะโน๊บ ภาษาเขมร) เริ่มจากการเตรียมสถานที่เลี้ยง ต้องเลี้ยงในระบบปิด โดยใช้มุ้งตาข่ายขนาดเล็กมทำเป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยงรูปทรงสี่เหลี้ยม ขนาดประมาณ กว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร ปูพื้นด้วยพลาสติกเเละกากมะพร้าว จากนั้นก็นำไข่ตั๊กแตนมาเพาะไว้ เมื่อตั๊กแตนฟักออกมาแล้วก็เริ่มให้อาหารโดยการใช้ใบไม้อย่างใบกล้วยหรือหญ้า ฉีดพรมน้ำเช้าเย็น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว จากนั้นรอให้ตั๊กแตนมีอายุ 45 วัน ก็จะเริ่มผสมพันธุ์และออกไข่มาให้ได้เก็บ โดยจะใช้วิธีการนำกระบะทรายมาวางไว้เพื่อให้ตั๊กแตนมาวางไข่แล้วทยอยเขี่ยเก็บ ซึ่งการเก็บก็จะเริ่มทยอยเก็บครั้งนึงสามวันแล้วเว้นไว้อีก 2-3 วัน ก็เก็บใหม่ และเมื่อตั๊กแตนอายุได้30 วันก็จะเริ่มทยอยจับตัวส่งขายแล้วนำชุดใหม่มาเลี้ยงแทน ซึ่งแต่และโรงเรือนถ้าโรงเรือนขนาดนี้จะสามารถเลี้ยงตั๊กแตนได้เป็นหมื่นๆตัว ซึ่งตอนนี้ตนเพาะตั๊กเเตนอยู่3คอก

 

สำหรับราคาการซื้อขายตั๊กแตนในตอนนี้นั้น ราคาขายแบบเป็นตัว ถ้าขายส่งจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 450 บาท แต่หากขายเป็นไข่ราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละกิโลกรัมละ 10,000 บาท หรือขีดละ 1,000 บาท ซึ่งถืออาชีพใหม่ที่ดีอย่างมาก เพราะเป็นค่าตอบแทนที่ดี ตลาดต้องการสูง เพราะตั๊กแตนถือเป็นอาหารโปรตีนชั้นดีคนนิยม อีกทั้งขั้นตอนการเลี้ยงก็ง่ายลงทุนต่ำด้วย ซึ่งตอนนี้มีลูกค้าทั้งขาประจำเเละขาจรมาไม่ขาด

หากท่านใดสนใจสั่งซื้อหรือจะลองเพาะเลี้ยง ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์095-7450005

 

ภาพ/ข่าว พูนสิน ยั่งยืน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม