ป.ป.ช.ชลบุรี ตรวจสอบโครงการลานน้ำพุที่ถูกลืม บนแหลมบาลีฮาย ถูกชุบชีวิตอีกครั้ง

ป.ป.ช.ชลบุรี ตรวจสอบโครงการลานน้ำพุที่ถูกลืม บนแหลมบาลีฮาย ถูกชุบชีวิตอีกครั้ง

ป.ป.ช.ชลบุรี ตรวจสอบโครงการลานน้ำพุที่ถูกลืม บนแหลมบาลีฮาย ถูกชุบชีวิตอีกครั้ง

ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการลานน้ำพุเต้นระบำบนแหลมบาลีฮาย ถูกชุบชีวิตขึ้นมาและเปิดให้ใช้งานได้อีกครั้ง หลังต้องทิ้งร้างมานานร่วม 5 ปี

นายกิจติพงค์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณี น้ำพุเต้นระบำ ทิ้งร้าง ที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งปรากฎเป็นข่าวโครงการ “น้ำพุเต้นระบำที่ถูกลืม” ของท่าเรือบาลีฮาย พัทยาใต้ ความหวังแลนด์มาร์กใหม่ที่ไม่เป็นจริง กระทั่งถูกประชาชนตั้งคำถามว่า “ถึงเวลาที่ควรจะมีการตรวจสอบความคุ้มค่าของงบประมาณในการลงทุนกันบ้างหรือยัง”

ประเด็นของ “น้ำพุเต้นระบำ ที่แหลมบาลีฮาย ถูกทิ้งร้าง” ดังกล่าว ต้องเท้าความย้อนไปถึงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2560 หลังจากที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้ถูกให้จัดระเบียบท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ ด้วยการปรับสภาพภูมิทัศน์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และทวงคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์สูงสุด โดยผู้บริหารสภาเมืองพัทยาในขณะนั้นได้อนุมัติงบประมาณกว่า 95 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงอาคารและพื้นที่ของท่าเทียบเรือใหม่ พร้อมกับโครงการปรับภูมิทัศน์โดยรอบบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ภายใต้งบประมาณอีกกว่า 81 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีโครงการ “ลานน้ำพุเต้นระบำ” ที่ออกแบบจัดสร้างไว้เพื่อสร้างสีสันและให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ทางการท่องเที่ยวของเมืองพัทยารวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นโครงการที่ถูกสร้างขึ้นให้มีการทำงานด้วยระบบปั๊มน้ำไฮโดรลิกใต้ฐานลานน้ำพุ ที่มีบ่อบรรจุน้ำขนาด 50-60 ลบ.ม. รวมทั้งไฟส่องสว่างแบบ LED ที่จะส่งน้ำพ่นออกทางปลายท่อที่จัดเรียงไว้ตามจังหวะของแสง สีและเสียงของดนตรี แต่หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จได้ไม่นาน เมืองพัทยาเปิดให้ประชาชนได้ชมเพียงช่วง 1-2 ปีแรกเท่านั้น ก่อนจะต้องปิดตัวลงไปในปี พ.ศ. 2561 บวกกับปลายปี พ.ศ. 2562 ที่มีสถานการณ์ “โควิด-19”กินเวลามานานกว่า 3-4 ปี ลานน้ำพุเต้นระบำดังกล่าวยิ่งถูกปล่อยให้รกร้างและชำรุดเสียหาย เมื่อหมดสัญญารับประกัน เมืองพัทยาก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ชำนาญการที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการดูแลและซ่อมแซมระบบของลานน้ำพุดังกล่าว ในเวลาต่อมาเมืองพัทยาจึงได้ปรับพื้นที่ลานขึ้นมาใหม่ให้กลายเป็นลานอเนกประสงค์ให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่จอดรถและกิจกรรมสันทนาการ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่นำสีมาทาทับพื้นที่ของลานน้ำพุเดิมไว้ เพื่อให้มีความแตกต่างกับสีของพื้นที่ทั้งหมดของท่าเรือ

และภายหลังจากที่มีข่าวว่า เมืองพัทยาได้ทำการชุบชีวิตปรับปรุงบูรณะพื้นที่ลานน้ำพุ ที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา ให้กลับมาใช้การได้อีกครั้งตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา จึงมีเสียงเรียกร้องให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี เข้ามาตรวจสอบถึงความโปร่งใสอีกครั้ง โดยกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ของ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าบริเวณลานน้ำพุเต้นระบำไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเศษดินที่เข้าไปในระบบขับแรงดันน้ำ และยังไม่มีงบซ่อมบำรุง

ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จากการที่ตนมอบหมายให้กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ป้องปรามและตรวจสอบการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการป้องปรามเชิงรุก ก่อนที่จะเกิดความเสียหายจากการทุจริต รวมถึงความไม่คุ้มค่ากับงบประมาณซ่อมแซม ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมทุกหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมมือร่วมใจกันบูรณาการด้านการทำงานเพื่อป้องปรามและเฝ้าระวังการใช้งบประมาณภาครัฐให้มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและสาธารณะ

กระทั่งเวลานี้ เมืองพัทยาได้แก้ไขปรับปรุง “น้ำพุเต้นระบำ” จนสามารถกลับใช้งานได้ตามเดิมตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน โดยจากการสอบถามข้อมูลจากผู้ประกอบการในบริเวณดังกล่าว พบว่ามีการเปิดใช้งานน้ำพุทุกวัน แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 08.00 – 10.00 น. และบ่าย ตั้งแต่เวลา 14.00 – 17.00 น. และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาถ่ายรูปคู่กับน้ำพุทุกวัน นับเป็นการร่วมบูรณาการปรับภูมิทัศน์สถานที่ให้สวยงามและเหมาะสมกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กตามวัตถุประสงค์ของโครงการตั้งแต่เริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี ได้ขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของการปรับปรุงแก้ไข “ลานน้ำพุเต้นระบำ” มาตรวจสอบเพื่อ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและตรวจสอบโครงการดังกล่าวต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม