นายสี จิ้นผิงเรียกร้องให้กองทัพจีนสร้างจิตสำนึกในภารกิจให้เข้มแข็งขึ้น มุ่งการปฏิรูปอย่างลึกซึ้ง และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม

นายสี จิ้นผิงเรียกร้องให้กองทัพจีนสร้างจิตสำนึกในภารกิจให้เข้มแข็งขึ้น มุ่งการปฏิรูปอย่างลึกซึ้ง และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม

 

นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีแห่งรัฐและประธานคณะกรรมาธิการการทหารกลางของจีน ได้เรียกร้องให้กองทัพจีนสร้างจิตสำนึกในภารกิจให้เข้มแข็งขึ้น มุ่งการปฏิรูปอย่างลึกซึ้ง และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมในขอบข่ายใหม่ ขณะเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของคณะผู้แทนกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) และกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน (PAP) ในการประชุมครั้งที่ 2 ของการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่ 14 หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติของจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค.67
ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า แรงผลักดันของจีนในการเร่งการพัฒนากำลังการผลิตใหม่ที่มีคุณภาพได้มอบโอกาสที่หาได้ยากสำหรับการพัฒนาความสามารถเชิงยุทธศาสตร์ในขอบข่ายใหม่ ภายใต้การเปิดใช้กำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่และความสามารถในการรบที่มีคุณภาพใหม่เพื่อบูรณาการและส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการประสานงานในการเตรียมความพร้อมสำหรับการสู้รบทางทะเล การคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล และการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล รวมทั้งปรับรูปแบบการบินและอวกาศให้เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบการบินและอวกาศของจีน และเพื่อสร้างระบบป้องกันทางไซเบอร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการปกป้องความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศและการประยุกต์ใช้ AI ตลอดจนการพัฒนาและการใช้ความสามารถในการรบแบบไร้คนขับ


ในขณะที่เทคโนโลยีฝูงโดรนในทางอากาศ ทางทะเล และทางบกได้รับการพัฒนาและนำไปใช้อย่างต่อเนื่องในความขัดแย้งระดับภูมิภาค ดังนั้น จีนจึงจำเป็นต้องตระหนักถึงบทบาทสำคัญในขอบข่ายใหม่ และขีดความสามารถทางการรบที่มีคุณภาพใหม่ๆ โดยเฉพาะจากการวางแผนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในสนามรบล่วงหน้า และดำเนินการวิจัยเชิงรุกในสาขาต่าง ๆ เช่น ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) และ AI เพื่อให้สามารถชนะสงครามในอนาคตได้ ซึ่งระบบการต่อสู้ไร้คนขับที่อัจฉริยะได้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในการรบจริงในสงครามระดับภูมิภาคและการปฏิบัติการทางทหารเมื่อเร็ว ๆ นี้ทั่วโลก เนื่องจากกองกำลังรบรูปแบบใหม่ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การทำสงคราม


ดังนั้น จีนควรปรับโครงสร้างและโครงร่างกองทัพให้เหมาะสม โดยเร่งการพัฒนากองกำลังรบไร้คนขับที่อัจฉริยะ และส่งเสริมการบูรณาการกองกำลังรบรูปแบบใหม่เข้าสู่ระบบการต่อสู้เป็นกองกำลังหลักของการทำสงคราม และสงครามจะเกิดขึ้นในหลากหลายมิติ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่จีนต้องมุ่งเน้นไปที่ขอบข่ายใหม่จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI อุปกรณ์ไร้คนขับและการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ที่คาดว่าจะมีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์มากกว่าบทบาททางยุทธวิธีในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ความสามารถดังกล่าวมีความสำคัญในการยับยั้งและหยุดยั้งความขัดแย้งท่ามกลางความไม่มั่นคงในปัจจุบันในสภาพแวดล้อมความมั่นคงระดับภูมิภาคและระดับโลก อันอาจจะนำไปสู่สันติภาพและเสถียรภาพ ดังนั้น การเพิ่มขีดความสามารถเชิงยุทธศาสตร์ในขอบข่ายใหม่ไม่เพียงแต่เป็นงานเฉพาะของกองทัพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ตลอดจนนักการเมืองด้วย
สรุปโดย พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.globaltimes.cn/page/202403/1308558.shtml )

ข่าวต่างประเทศ