ศึกษาธิการนราธิวาส ขานรับ “No Drugs No Dealers” เดินหน้ามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาในสถานศึกษา
วันที่ 4 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ชารีฟท์ สือนิ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยการประกาศจุดยืนสนับสนุนนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” มุ่งสร้างสถานศึกษาในพื้นที่ให้ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยเน้นมาตรการเข้มข้นทั้งด้านการป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาในกลุ่มเยาวชน โดยการให้ความรู้และรณรงค์ สร้างความตระหนักแก่ครู นักเรียน และผู้ปกครองถึงพิษภัยของยาเสพ
ทั้งนี้ มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบ โดยประสานความร่วมมือกับโรงเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดเล็ดลอดเข้าสู่สถานศึกษา ช่วยเหลือฟื้นฟูนักเรียนกลุ่มเสี่ยง ผ่านระบบดูแลช่วยเหลือแบบบูรณาการ ป้องกันยาเสพติด ซึ่งต้องเริ่มที่การสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดให้กับเด็กและเยาวชน ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัย ปลอดยาเสพติด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ทุกสถานศึกษาในสังกัดเข้มงวดมาตรการควบคุมและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม สร้างอนาคตที่ปลอดภัยให้กับเยาวชนในจังหวัดนราธิวาส
ดร.ชารีฟท์ สือนิ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า “หลังจากที่ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ได้รับนโยบายในเรื่องของวาระพืชกระท่อม ก็จะใช้มาตรการในเรื่องของประกาศตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ในเรื่องของมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ และการบริโภคเครื่องดื่มยาเสพติดและใบกระท่อมด้วย โดยเฉพาะมาตรการให้สถานศึกษาที่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผลิตภัณฑ์ยาสูบ อันนี้ก็ถือว่าเป็นเป็นสิ่งที่สำคัญที่หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจะต้องดำเนินการ และในขณะเดียวกันในสถานศึกษาก็จะต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่เราเรียกว่าเซฟโซนว่า จะทำอย่างไรโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เด็กมาโรงเรียน โดยเฉพาะคุณครูเวรคุณครูรวมถึงผู้ปกครอง ก็จะต้องกำชับมีการสอดส่องตรวจตราดูแลนักเรียน ในขณะเดียวกันก็จะต้องห้ามนักเรียนและนักศึกษาที่สูบบุหรี่ห้ามสวมเครื่องแบบเด็กนักเรียน ซึ่งเรามองว่าถ้าเกิดมีการเผยแพร่ทางโลกโซเชียลก็จะมีความสุ่มเสี่ยง ในขณะเดียวกันก็จะใช้ระบบช่วยเหลือดูแลดูแลนักเรียน ซึ่งคุณครูที่ทำหน้าที่เป็นโฮมรูมก็จะมีความใกล้ชิดกับเด็กนักเรียนที่จะต้องสอดส่องพฤติกรรม ซึ่งถ้าเกิดกรณีที่ไปเจอเด็กที่มีพฤติกรรมลักษณะแบบนี้คุณครูก็จะต้องมีการพูดคุยแบบกัลยาณมิตร พูดคุยแบบประนีประนอมว่าเด็กอาจซื้อใบกระท่อมซื้อมาจากไหน ช่วงเวลาของการสูบที่ไหนอย่างไร เพื่อที่จะให้คุณครูหรือว่าโรงเรียนให้ให้ความช่วยเหลือต่อไป ว่าจะทำอย่างไรให้เด็กไม่มีเวลาว่างในการไปสุ่มในเรื่องของยาเสพติดรวมถึงใบกระท่อม และในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งตอนนี้ทุกสถานศึกษาและทุกหน่วยงานทางการศึกษาได้กำชับตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้มีการประกาศไว้ เพราะเรามองว่าถ้าเกิดเด็กไปสุ่มเสี่ยงมีความเสี่ยงในเรื่องของยาเสพติดก็เป็นเป็นการทำลายอนาคตของเด็ก และที่สำคัญก็คือโรงเรียนได้มีการประชาสัมพันธ์ในการสร้างความตระหนักรู้ คิดว่าให้เด็กนักเรียนห่างไกลในเรื่องของยาเสพติดในทุกประเภท เพราะถ้าเกิดยุ่งเกี่ยวยาเสพติดมันจะไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพเลยครับ และที่สำคัญมันก็จะส่งผลต่ออนาคตของเด็ก ถ้าเกิดเด็กไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สุดท้ายก็คือในเรื่องของการประกอบอาชีพในอนาคตข้างหน้า ก็จะไม่เป็นผลดีต่อเด็กนักเรียน ซึ่งหน่วยงานการศึกษาหรือประชาชนโดยเฉพาะผู้ปกครองที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะต้องช่วยกันสอดส่องดูแลจะมอบให้เป็นภาระของสถานศึกษาโรงเรียนอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อที่จะพัฒนา เพื่อที่จะให้เด็กและเยาวชนในจังหวัดนราธิวาสเป็นคนดี และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป.”
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาส โทร 082-4154474
ศูนย์ข่าวภาคใต้ นสพ.แผ่นดินไทยโพสต์