แม่ทัพภาคที่ 4 นำกำลังพลประกอบพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

วันที่ 25 กันยายน 2568 ที่ ศาลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ค่ายกัลยานิวัฒนา ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส พลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พลตรีณรงค์ ตันติสิทธิพร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่15 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พันเอก กำธร ศรีเกตุ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 นำกำลังพลของ กรมทหารราบที่ 151 และหน่วยขึ้นตรงกรมทหารราบที่ 151 พร้อมสมาชิกแม่บ้านทหารบกสาขา กรมทหารราบที่ 151 และหน่วยขึ้นตรงกรมทหารราบที่ 151 ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้จัดพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเทิดพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตามนโยบายของกองทัพบก ยึดถือปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหารตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้กำลังพลตระหนักถึงภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่งในการรักษาหวงแหน ปกป้องประชาชน บ้านเมืองและรักษาแผ่นดินไทยให้เป็นมรดกของลูกหลานสืบไป

ทั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถือเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณอนันต์ต่อแผ่นดินสยาม ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ มีพระอัจฉริยภาพและฝีพระหัตถ์ในการรบและเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิด ทรงตรากตรำพระวรกายในการทำศึกสงครามตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ โดยมิได้ว่างเว้น นับตั้งแต่พระชนมายุ 16 พรรษา และทรงทำศึกสงครามต่อเนื่องหลายครั้ง ในวันที่ 18 มกราคม 2135 ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาจนได้รับชัยชนะ ทำให้พระบรมเดชานุภาพ แผ่ไพศาลไปทั่วปฐพี และปราบปรามหัวเมืองมอญฝ่ายใต้ ได้เมืองตะนาวศรี มะริด ทวาย ต่อมาปี 2138 และ ปี 2142 ทรงยกทัพไปตีเมืองหงสาวดีได้เมืองเมาะลำเลิง และเมืองตองอู จนหัวเมืองไทยใหญ่ทั้งปวงยอมขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพไปต่อสู้กับพระเจ้าอังวะ ทรงตั้งค่ายที่เมืองหาง ทรงพระประชวรเป็นพระยอดพิษที่พระนลาฏ และเสด็จสวรรคตที่เมืองหาง เมื่อวันจันทร์ เดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็ง พระชันษา 50 พรรษา ตรงกับวันที่ 25 เมษายน 2148 รวมเวลาเสวยราชสมบัติเป็นเวลา 15 ปี.

ภาพ/ข่าว : ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาส โทร 082-4154474
ศูนย์ข่าวภาคใต้ นสพ.แผ่นดินไทยโพสต์

