รมว.พลังงาน–รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ชายแดนศรีสะเกษ เดินหน้านโยบาย “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี”เพิ่มศักยภาพทหารแนวหน้า

รมว.พลังงาน–รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ชายแดนศรีสะเกษ เดินหน้านโยบาย “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี”เพิ่มศักยภาพทหารแนวหน้า

รมว.พลังงาน–รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ชายแดนศรีสะเกษ เดินหน้านโยบาย “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี”เพิ่มศักยภาพทหารแนวหน้า

 


เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนเดินทางต่อไปยังบริเวณภูมะเขือ เพื่อตรวจเยี่ยมและสำรวจพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ


ทั้งนี้ การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อดูสภาพความพร้อมของการเข้าถึงพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะเส้นทางที่ใช้ในการนำกำลังพล การส่งกำลังบำรุง และการดูแลความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะดำเนินการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของเจ้าหน้าที่ ส่วนกระทรวงพลังงานจะสนับสนุนการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านพลังงานไฟฟ้าให้แก่หน่วยทหารชายแดน นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามแนวชายแดนให้สอดคล้องกับแนวทาง “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี” เพื่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัวได้สะดวก มีระบบไฟฟ้าใช้ และมีเส้นทางคมนาคมที่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพทั้งด้านความมั่นคงและการช่วยเหลือทางการแพทย์ในพื้นที่ชายแดน
ภายหลังการตรวจเยี่ยมแนวชายแดน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะก็ได้เดินทางต่อไปยังปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเคยได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดที่ยิงข้ามมาจากฝั่งกัมพูชา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยมีเจ้าของปั๊มน้ำมันออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้น


นายอรรถพล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า ได้รับทราบถึงความต้องการของเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะเรื่องของระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและภารกิจด้านความมั่นคง กระทรวงพลังงานจึงได้วางแผนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ชายแดนทั้งหมด 100 จุด เพื่อให้กำลังพลในพื้นที่สามารถใช้งานไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ได้มีประธานเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าฝ่ายการผลิตลงพื้นที่ร่วมสำรวจ เพื่อกำหนดจุดที่เหมาะสมในการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โดยจะให้ทหารในพื้นที่ช่วยระบุจุดที่มีความจำเป็นมากที่สุด เนื่องจากเป็นผู้รู้สภาพพื้นที่ดีที่สุด จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งกลับมายังกระทรวงพลังงานเพื่อดำเนินการเสนอของบประมาณและเร่งติดตั้งโดยเร็วที่สุด
นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หากทุกขั้นตอนดำเนินไปตามแผน คาดว่าภายในหนึ่งเดือนจะสามารถติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ครบทั้ง 100 จุด เพื่อให้ทหารตามแนวชายแดนมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของกำลังพล พร้อมทั้งเสริมประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ สำหรับกรณีปั๊มน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ขณะนี้ภาคเอกชน โดยเฉพาะบริษัท OR และร้าน 7-Eleven ได้เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่แล้ว เบื้องต้นได้มีการปรับปรุงและซ่อมแซมอาคารร้านค้าให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ซึ่งคาดว่าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจะกลับมาเปิดให้บริการได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้


ส่วนความเสียหายด้านอื่นๆ ทั้งในแง่ของทรัพย์สินและผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เจ้าของสถานประกอบการได้จัดทำรายละเอียดและตัวเลขความเสียหายส่งให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษแล้ว เพื่อให้ประสานต่อไปยังหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งทางรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญและพร้อมดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
ในส่วนของความกังวลของชาวบ้านในพื้นที่ นายอรรถพลย้ำว่า “เรื่องการสื่อสารถือว่าสำคัญมาก” โดยได้หารือกับหน่วยทหารในพื้นที่ให้มีแนวทางการแจ้งข่าวสารและเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปยังชุมชนอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกในยามเกิดสถานการณ์อ่อนไหว พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข่าวจากหน่วยงานภาครัฐโดยตรง เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนในพื้นที่ชายแดน

ด้านนางสาวกมนรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจและขอบคุณรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่มาพูดคุยและให้กำลังใจ รวมถึงเข้ามาตรวจสอบตัวเลขความเสียหายเพื่อเตรียมดำเนินการเยียวยา ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษจะนำข้อมูลไปส่งต่อให้หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการต่อไป หวังว่าจะได้รับเงินชดเชยที่ตรงตามความเป็นจริง เพราะตัวเลขที่ส่งไปนั้นประเมินตามข้อมูลจริงทั้งหมด
เจ้าของปั๊มยังกล่าวขอบคุณบริษัทเอกชนอย่าง CP และ ปตท. ที่เข้ามาดูแลและให้ความช่วยเหลือ พร้อมบอกว่าการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเดินทางมารับฟังปัญหาด้วยตัวเอง ถือเป็นสัญญาณที่ดีและสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนในพื้นที่อย่างมาก เชื่อว่าทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้น
สำหรับผลกระทบทางธุรกิจ ตอนนี้ยอดขายน้ำมันลดลงไปประมาณ 20% ซึ่งไม่ใช่เฉพาะปั๊มของตน แต่ปั๊มอื่น ๆ รวมถึงร้านค้าในพื้นที่ชายแดนต่างก็ได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน ส่วนร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในพื้นที่ปั๊ม คาดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

ข่าว/ภาพ …. บุญทัน ธุศรีวรรณ

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม