คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – สหราชอาณาจักรฯ เข้าพบปะหารือกับรองประธานสภาสามัญสหราชอาณาจักรฯ ในโอกาสเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรฯ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 5 พ.ย. 68
เมื่อวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมรองประธานสภาสามัญ อาคารรัฐสภาเวสมินสเตอร์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรฯ นายอมรศักดิ์ กิจธนานันท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – สหราชอาณาจักรฯ และคณะ ประกอบด้วย นายภมร เชาว์ศิริกุล และนายเอนก วีระพจนานันท์ กรรมการบริหาร นายองค์การ ชัยบุตร และนายพละวัต ตันศิริ สมาชิกกลุ่มมิตรภาพฯ เข้าพบปะหารือกับ Hon. Mrs. Judith Cummins (นางจูดิธ คัมมินส์) รองประธานสภาสามัญ (House of Commons) หรือสภาผู้แทนราษฎร ในโอกาสเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรฯ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2568
นางจูดิธ คัมมินส์ กล่าวต้อนรับคณะ และกล่าวถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และกล่าวว่าโดยส่วนตัวชื่นชอบประเทศไทยมาก ตนเคยเป็นสมาชิกกลุ่ม APPG Thailand และมาเยือนไทยหลายครั้ง
ในสาระของการหารือ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้มีการเฉลิมฉลอง 170 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สหราชอาณาจักรฯ และความสัมพันธ์ระดับรัฐสภาทวิภาคีผ่านกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทย – สหราชอาณาจักรฯ ที่อายุครบ 30 ปี โดยประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย – สหราชอาณาจักรฯ ได้เน้นย้ำว่า ความร่วมมือทั้งในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติผ่านรัฐสภามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกระชับความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในทุกด้าน แม้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมาที่อาจทำให้ความร่วมมือบางด้านล่าช้าไป แต่ความสัมพันธ์ผ่านรัฐสภาจะเป็นเสาหลักสำคัญที่จะสานต่อมิตรภาพให้ยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่องการศึกษาที่ถือเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนามนุษย์ และการลดความเหลื่อมล้ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสำหรับการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งการศึกษาของสหราชอาณาจักรฯ ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย มีโรงเรียนที่มีชื่อเสียงของสหราชอาณาจักรฯ 4 แห่ง กำลังจะเปิดดำเนินการในประเทศไทยใน 1 ถึง 2 ปีข้างหน้า ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรฯ ไม่สามารถจัดตั้งวิทยาเขตสาขาในประเทศไทยได้เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่ปัจจุบันกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มีการปรับเปลี่ยนข้อจำกัดเหล่านั้นแล้ว กลุ่มมิตรภาพฯ ไทย – สหราชอาณาจักรฯ จึงพร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยจากสหราชอาณาจักรฯ ในการจัดทำปริญญาร่วม (Joint Degree) การแลกเปลี่ยนคณาจารย์และนักศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การจัดตั้งวิทยาเขตในประเทศไทยในอนาคต
นอกจากนี้ ในเรื่องของการเศรษฐกิจและการค้า ปัจจุบันไทยและสหราชอาณาจักรฯ ได้พัฒนาความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (Enhanced Trade Partnership : ETP) ซึ่งถือเป็นก้าวแรกสู่การจัดทำข้อตกลงทางการค้าในอนาคต สินค้าที่ไทยและสหราชอาณาจักรฯ ค้าขายกันมาก ได้แก่ เครื่องจักรกล อัญมณีเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และไก่แปรรูป นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางการผลิตรถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่สหราชอาณาจักรฯ มีความเชี่ยวชาญในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับความร่วมมือในอนาคตกลุ่มมิตรภาพฯ ยังได้เล่าถึงโอกาสที่หารือกับสภาหอการค้าอังกฤษ – ไทย ได้รับคำแนะนำในเรื่องการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติ (Ease of Doing Business) มากขึ้น โดยข้อแนะนำสำคัญประการหนึ่งคือเรื่องการตรวจลงตรา (Visa) สำหรับแรงงานมีฝีมือ (Professional) และครูต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันต้องมีการต่ออายุทุก 6 เดือน จึงต้องการให้มีการขยายระยะเวลาอายุวีซ่าให้ยาวนานขึ้นประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรฯ โดยปัจจุบันมีสายการบินได้เพิ่มบริการเที่ยวบินตรงเส้นทาง เมืองแมนเชสเตอร์ และจากภูเก็ตด้วย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยเฉพาะจากทางตอนเหนือของอังกฤษ นอกจากนี้ ยังได้หารือเรื่องการส่งเสริมฟรีวีซ่าให้กับคนไทยในการเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรฯ ด้วยทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเปลี่ยนผ่านสีเขียว (Green Transition) เป็นวาระที่สำคัญอย่างยิ่งในทุกประเทศ และสหราชอาณาจักรฯ เป็นหนึ่งในผู้นำของโลกในด้านนี้ ประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ได้ขอบคุณทางสหราชอาณาจักรฯ ที่ได้สนับสนุนเงินจำนวน 6 ล้านปอนด์ ในระยะเวลา 2 ปี เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของไทยในเรื่องดังกล่าวในช่วงท้ายของการพบปะหารือ ประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย – สหราชอาณาจักรฯ ได้มอบหนังสือเชิญของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรของไทย ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักรฯ เพื่อเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากครั้งล่าสุดที่มีการเดินทางเยือนไทยของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักรฯ เมื่อปี 2540
เครดิตข่าว : กลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เครดิตภาพ : กลุ่มงานความสัมพันธ์รัฐสภาทวิภาคี สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เรียบเรียง : กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ภาพ/ข่าว-วิลาสินี เจริญสุข/0815926966