เริ่มแล้ว งานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาดสมุทรปราการ 2568 วันแรกสุดคึกคัก ประชาชนร่วมชมขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์จำนวนมาก
เมื่อช่วงสายวันที่ 12 ตุลาคม 2568 ที่บริเวณริมเขื่อนศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสมุทรปราการ ประจำปี 2568 โดยมี นายสุนทร ปานแสงทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ นายอำเภอ และข้าราชการเกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ ในพิธีมีการเจริญพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ 9 รูป
โดยหลังจากพิธีเปิด ได้อัญเชิญผ้าแดงผืนใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนทั้งชายและหญิง พร้อมใจกันเย็บ ใช้ห่มองค์พระเจดีย์กลางน้ำขึ้น รถบุษบก ที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด พร้อมริ้วขบวนแห่ไปรอบตลาดปากน้ำ ก่อนที่จะอัญเชิญผ้าแดงลงเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ร่วมสักการบูชา โดยเรือจะล่องไปจนถึงหน้าที่ว่าการอำเภอพระประแดง ก่อนที่จะกลับมายังฝั่งอำเภอพระสมุทรเจดีย์ และอัญเชิญผ้าแดงขึ้นฝั่งและประกอบพิธีการห่มผ้าแดงให้แก่องค์พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสืบทอดกันหลายยุคหลายสมัย
งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 ตุลาคม ถึง วันที่ 23 ตุลาคม 2568 งาน 12 วัน 12 คืน บริเวณศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ และ ฝั่งองค์พระสมุทรเจดีย์ ภายในงานจะมีการออกร้านกาชาดของเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงมหรสพ ให้ประชาชนชมฟรีทุกคืน
สำหรับประชาชนที่จะเดินทางมาเที่ยวชมงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ฯ แนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้า สายสีเขียว มาลงที่สถานีปากน้ำ หรือ รถโดยสารสาธารณะเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
พระสมุทรเจดีย์ หรือ “พระเจดีย์กลางน้ำ ” ถือเป็นปูชนียสถาน คู่บ้าน คู่เมือง และเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ที่ ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ บริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัด โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นกลาง และถือว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ พระสมุทรเจดีย์ เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ภายหลังจากที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างเมืองสมุทรปราการและป้อมปราการต่าง ๆ โดยพื้นที่เดิมเป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ เรือสินค้าสามารถแล่นอ้อมรอบๆเกาะได้ จึงได้ชื่อว่า “พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ” ปัจจุบันกระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและแผ่นดินได้ยื่นงอกออกมาจากการทับถมของตะกอน จนทำให้พื้นที่เกาะหมดไป คงเหลือเพียง “พระสมุทรเจดีย์” เท่านั้น
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ กับสมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ครั้งยังเป็นพระยาพระคลัง เป็นแม่กองจัดการ ถมเกาะหาดทรายให้แน่นหนามั่นคง เสร็จแล้วโปรดเกล้าฯให้ กรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์พลเสพย์ กับ พระยาราชสงคราม คิดแบบเจดีย์จนเป็นที่พอพระราชหฤทัย แล้วจึงโปรดเกล้าฯให้ พระเจ้า ลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์กับเจ้าพระยาพระคลัง เป็นผู้อำนวยการสร้าง แต่พระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้พระยาศรีธรรมราชและพระยาพระคลัง เป็นแม่กอง จัดสร้างพระเจดีย์ขึ้นกลางเกาะตามพระราชประสงค์ของพระราชบิดา แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2371 พระราชทานนามว่า “พระสมุทรเจดีย์
พระสมุทรเจดีย์ เดิมสร้างเป็นแบบย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ทอดพระเนตรสภาพทั่วไปของพระสมุทรเจดีย์ ทรงมีพระราชประสงค์จะสถาปนาให้สูงขึ้นไปอีก เพื่อให้เรือของชาวต่างประเทศที่เข้ามาจะได้แลเห็นพระสมุทรเจดีย์ จึงโปรดเกล้าฯให้ช่างไปถ่ายแบบพระเจดีย์ลอมฟางที่กรุงศรีอยุธยา แล้วโปรดเกล้าฯให้กรมหมื่นราชสีหวิกรม เป็นนายช่างจัดการสร้างพระเจดีย์แบบลอมฟางครอบพระเจดีย์เดิม นอกจากนี้ ยังทรงสร้างศาลาเก๋งจีน หอเทียน หอระฆัง พระวิหาร และพระพุทธรูป ปางห้ามสมุทร พร้อมหลักผูกเรือริมน้ำรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ จากพระบรมมหาราชวัง แห่มาทางชลมารคบรรจุไว้ตามโบราณราชประเพณี ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการสมโภชเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ จนเป็นประเพณีสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน.
ภาพ/ข่าว : บัณฑิต ชวาลา จ.สุมทรปราการ โทร 087-6122558
หนังสือพิมพ์แผ่นดินไทยโพสต์