ตำรวจ สภ.กันทรวิชัย ปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ได้เงินคืนนับล้านบาท จาก 4 ล้านกว่าบาท พบว่าเงินที่ได้มายักย้ายถ่ายเทไปยังกัมพูชา

ตำรวจ สภ.กันทรวิชัย ปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ได้เงินคืนนับล้านบาท จาก 4 ล้านกว่าบาท พบว่าเงินที่ได้มายักย้ายถ่ายเทไปยังกัมพูชา

ตำรวจ สภ.กันทรวิชัย ปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ได้เงินคืนนับล้านบาท จาก 4 ล้านกว่าบาท พบว่าเงินที่ได้มายักย้ายถ่ายเทไปยังกัมพูชา

เวลา 14.00 น. วันที่ 15 ต.ค.68 ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พล.ต.ต.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง ผกก.สภ.กันทรวิชัย และชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตํารวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม  ได้แถลงข่าว ปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 พ.ค.68 เวลา 19.31 น. สภ.กันทรวิชัย ได้รับแจ้งจาก นางมณีย์ ไชยชนะ ว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกลวงอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า แล้วหลอกลวงว่าจะคืนเงินค่ามิเตอร์ไฟฟ้า จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายเข้าไปแก้ไขข้อมูลในแอปพลิเคชันธนาคารในมือถือ โดยการแก้ไขวงเงินขั้นต่ำ เปลี่ยนภาษาภายในแอปพลิเคชันธนาคาร แก้ไขขนาดตัวอักษรให้เล็กลง แล้วให้สแกนคิวอาร์โค้ดอ้างว่าสแกนเพื่อรับเงิน  แต่แท้จริงแล้วเป็นการสแกนเพื่อจ่ายเงินออกไป เป็นเหตุให้สูญเงิน จำนวน 4,498,663 บาท   ซึ่งเมื่อทราบเหตุดังกล่าว พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง ผกก.สภ.กันทรวิชัย ได้แจ้งให้ผู้เสียหาย ติดต่อไปที่ AOC 1441 ทันที เพื่อแจ้งอายัดบัญชีของคนร้าย สืบเนื่องจากการอายัดบัญชีได้อย่างรวดเร็ว สามารถอายัดเงินในบัญชีของคนร้ายได้กว่า 1 ล้านบาท

ต่อมา พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นำทีมโดย พ.ต.ท.กิตภากร ภูคำสอน รอง ผกก.สส.สภ.ยางสีสุราช,  พ.ต.ต.นภสินธุ์ ธนเดชโชติอนันต์ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองฯ, ร.ต.อ.ณัฐชนน ชุ่มมะโน รอง สว.สส.สภ.เมืองฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถรู้ตัวผู้กระทำความผิด และสืบทราบว่า บัญชีม้าแถวที่ 1 จำนวน 2 บัญชี ที่รับโอนเงินที่ได้มาจากการประทุษร้ายและยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้มาไปยังบัญชีแถวอื่นๆ และ เจ้าของบัญชีแอปพลิเคชัน Western Union ที่ทำหน้าที่โอนเงินที่ได้จากการประทุษร้ายไปยังประเทศกัมพูชา ดังนี้

บัญชีม้าแถวที่ 1  1.นายประยุทธ เพ็งผล อายุ 45 ปี ที่อยู่ 903/5 ซอยภาวนา แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร  (จับกุมตัว ข้อหา เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน)

2.น.ส.ณภัทร ชัยรัตน์ เชื้อชาติ กัมพูชา อายุ 36 ปี ที่อยู่ 999 ต.นายายอาม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี  (หลบหนี ข้อหา เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน)

เจ้าของบัญชีแอปพลิเคชัน Western Union

น.ส.ปนัดดา รัตนพลแสน อายุ 26 ปี ที่อยู่ 48 หมู่ที่ 14 ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม (จับกุมตัว ข้อหา เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน)

ทั้งนี้จุดเด่นที่น่าสนใจของคดีนี้ คือ คนร้ายมีการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้มาจากการประทุษร้ายไปยังประเทศกัมพูชา มีการใช้บัญชีกลางที่ให้บริการจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เช่น Truemoney, 2C2P, Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน Western Union บริการโอนเงินระหว่างประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงการอายัดบัญชีจากเจ้าหน้าที่

โดยผู้เสียหายเล่าว่า ในช่วงเวลานั้นกำลังยุ่งอยู่กับการขายของให้ลูกค้า ขณะเดียวกันได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาให้โหลดแอฟพลิเคชั่นของการไฟฟ้า ตนเองทำไม่เป็นจึงให้หลานเป็นคนทำให้  แม้แต่ลูกค้ามาซื้อของตนเองก็ไม่สนใจ มัวแต่มาสนใจเรื่องโหลดแอฟ เพราะเห็นว่าจะได้เงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า มารู้ตัวอีกทีโดนโกงประมาณครึ่งชั่วโมง มีเงินออกจำนวนมาก ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าบอกว่าโดนโกง ตนเองก็รีบปิดร้าน มาที่ สภ.กันทรวิชัย ที่อยู่ใกล้บ้าน จากนั้นไปที่ธนาคารและรีบอายัด โชคดีที่ได้เงินคืนบางส่วน และขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบกระเช้าดอกไม้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคารที่สามารถนำเงินมาคืนให้ได้ส่วนหนึ่ง.

ภาพ/ข่าว : พิเชษฐ  ยากรี  จ.มหาสารคาม

หนังสือพิมพ์แผ่นดินไทยโพสต์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม