รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนเขาพระวิหารจังหวัดศรีสะเกษ

รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนเขาพระวิหารจังหวัดศรีสะเกษ

รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนเขาพระวิหารจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเตรียมสร้างสาธารณูปโภคให้กำลังพล

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ลงพื้นที่บ้านภูมิซรอล เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เขาพระวิหารจังหวัดศรีสะเกษโดยมีพลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 นำทหารร่วมให้การต้อนรับบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนและตรวจกำลังพลและวางกลยุทธ์ต่างๆ ที่ฐานทหารต่างๆตามแนวชายแดนจังหวัดศรีสะเกษด้วย ทั้งนี้เพื่อหารือแนวทางบูรณาการการทำงานระหว่าง “กลาโหม–พาณิชย์” เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดด่าน และเพื่อเตรียมสร้างถนนและระบบไฟฟ้า น้ำประปา อินเตอร์เน็ต ให้แก่กองกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยแนวชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ


พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงพื้นที่ชายแดนให้รวดเร็ว ในเรื่องของการเข้าถึงพื้นที่ชายแดนนั้น มีความจำเป็นเนื่องจากมีระยะทางที่ไกลและมีพื้นที่เป็นป่าเขาเดินทางยากลำบากโดยเฉพาะในฤดูฝน ฉะนั้นต้องการให้ทำถนนให้ถึงที่ชายแดนโดยเร็ว เมื่อเกิดเหตุการณ์จะได้ส่งผลกำลังพลเพิ่มเติม เพื่อให้กองกำลังทหารทำหน้าที่ป้องกันชายแดนได้รวดเร็วขึ้นและการส่งกลับผู้บาดเจ็บจะได้สะดวกยิ่งขึ้นต่อไป นอกจากนี้เรื่องถนนก็จะเป็นเรื่องไฟฟ้า ระบบน้ำประปาและอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังป้องกันชายแดนไทย และเจ้าหน้าที่ป่าไม้และกรมอุทยานก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากถนนได้ เมื่อสถานการณ์ปกติและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกด้วย


รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่นั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่เพื่อนบ้านเกเรจะบิดเบือน บ่อนทำลายและสร้างการยั่วยุอยู่ตลอด ซึ่งทางฝ่ายไทยก็ต้องระวัง จะใช้คำว่าปกติคงไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพรวมถึงความรักชาติของพี่น้องประชาชนเป็นกำลังใจให้แก่ทหารหาญที่อยู่ชายแดนที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติด้วยความภาคภูมิใจ สำหรับตัวของแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น ตนเองอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ตั้งแต่สมัยเริ่มต้นรับราชการทหารจนถึงปัจจุบันนี้ เคยเป็นนักเรียนจู่โจมมาด้วยกัน เรียนจบมาก็มาทำงานที่ภาคอีสานด้วยกัน ไม่ต้องห่วงในเรื่องความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมและกองทัพภาคที่ 2 จนถึงน้องๆที่เป็นพลทหาร

เนื่องจากสงครามในปัจจุบันนั้น เป็นสงครามและไฮบริด ข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องสำคัญการบิดเบือนข่าวสารจากฝั่งตรงข้ามเป็นเรื่องสำคัญ การเสพข้อมูลข่าวสารจะต้องมีสติในการเสพ ในตอนนี้เราต้องการความรักความสามัคคี ผู้บังคับทุกคนไม่มีใครทิ้งลูกน้องแน่นอน การรบต้องอาศัยความสามัคคีและความร่วมมือ ฝ่ายตรงข้ามพยายามจะบิดเบือนและสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับผู้บังคับหน่วย ผู้บังคับกองพลหรือท่านแม่ทัพ สิทธิต่างๆเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลไม่มีใครโกงเงินเดือนหรือเบี้ยเลี้ยงอาหารการกินของพลทหารตัวเองแน่นอน

ข่าว/ภาพ …. บุญทัน ธุศรีวรรณ

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม