เลย-โควิดยังไม่หยุดพบติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย
อ.เมืองเลย จ.เลย พบติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย แพทย์ชี้ฉีดวัคซีนเร็วที่สุดคอทางออก ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันมากกว่า 99 %
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2564 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ห้องประชุมภูเรือ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชกรจังหวัดเลย พร้อมด้วย นพ.อภิชาต สะบู่แก้ว ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อีก 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 80 ราย ผู้ป่วยรายที่ 79 เพศ หญิงไทย อายุ 24 ปี อาชีพ แม่บ้าน ภูมิลำเนา บ้านหนองผำ ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย ตรวจหาเชื้อ วันที่ 14 พ.ค. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประวัติเสี่ยง มีประวัติเดินทางมาจาก กทม. และสัมผัสกับสามีที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ที่ กทม.) ผู้ป่วยมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เหนื่อย ปัจจุบัน Admit ที่ รพ.เลย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 10 ราย ส่งตรวจแล้วจำนวน 4 ราย (ไม่พบเชื้อ 1 ราย รอผล 3 ราย) อีก 6 ราย (กำลังดำเนินการส่งตรวจ)
นพ.อภิชาต สะบู่แก้ว ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ผู้ป่วยรายที่ 80 เพศ ชาย สัญชาติลาว อายุ 25 ปี อาชีพ รับจ้างขนสินค้าในตลาดห้วยขวาง กทม. วันที่ 8 พ.ค. 64 เข้าสถานที่กักตัวบ้านนากระเซ็ง เพื่อรอเดินทางกลับ สปป.ลาว ตรวจหาเชื้อ วันที่ 13 พ.ค. 64 ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (14 พ.ค.64) ประวัติเสี่ยง ผู้ป่วยทำงานในสถานที่เสี่ยงที่มีความแออัด และเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 และทราบภายหลังว่าเพื่อนที่พักด้วยกันที่ กทม. ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผู้ป่วยมีอาการ ปวดศีรษะ ไอ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ ปัจจุบัน Admit ที่ รพ.ท่าลี่ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ สำหรับรายนี้ ผู้ป่วยได้โดยสารรถทัวร์ของบริษัท แอร์เมืองเลย หมายเลย 29-26 ช่องจอดรถที่ 27,29 เวลา 19.00 น. มีผู้โดยสารทั้งหมด 19 คน และเมื่อเดินทางถึง บขส.เลย ได้โดยสารแท็กซี่ไปยัง อ.ท่าลี่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้มีการประสาน บขส. เพื่อติดตามรถทัวร์ของคันที่ผู้ป่วยโดยสารมา เพื่อติดตามคนบนรถทุกคนมาตรวจเชื้อ ส่วนคนขับรถแท็กซี่ได้พบตัวแล้ว และนำเข้าสู่กระบวนการกักตัวแล้ว
ด้านสถานการณ์ในขณะนี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีน ซึ่งจากข้อมูลของ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สถาบันการวิจัยแห่งชาติ พบว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนนิก้า ช่วยสร้างภูมิต้านทานได้มากถึงร้อยละ 97.26 ส่วน วิแวค สร้างภูมิต้านทานได้ถึงร้อยละ 99.49 ส่วนผู้ที่เคยป่วยและหายแล้วประมาณ 4-8 สัปดาห์ มีภูมิต้านทานร้อยละ 92.40 แสดงให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และลดอัตราการเสียชีวิตได้จริง
นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเลยทุกคนมาร่วมกันลงทะเบียนจองเพื่อฉีดวัคซีน ซึ่งในขณะนี้จังหวัดเลยได้ส่งทีน 5 ทหารเสือลงไปเคาะประตูบ้าน สำรวจข้อมูลและอำนวยความสะดวกการลงทะเบียน ทั้งหมด 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งสามารถลงทะเบียนจองผ่านทีม 5 ทหารเสือได้ทันที เพื่อความรวดเร็ว โดยยืนยันว่า จังหวัดเลยมีความพร้อมในทุกด้าน ส่วนกรณี เรือนจำจังหวัดเลย ขณะนี้ได้มีการประสานกันระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่เรือนจำแล้ว ซึ่งเดิมมีการบริหารจัดการ การตรวจโรค ที่มีมาตรฐานอยู่แล้ว ส่วนการตรวจโควิดจะมีการประสานกันเพิ่มเติม แต่ปัจจุบันยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดเลย
————-//—————–
บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย