สส.เพื่อไทยไม่ทนนำชาวบ้านสอบถามความคืบหน้าท่าทราย

สส.เพื่อไทยไม่ทนนำชาวบ้านสอบถามความคืบหน้าท่าทราย

ส.ส.สุรินทร์ นำ ประชาชน เข้าพบนายอำเภอรัตนบุรี ร้องเรียนความเดือดร้อน จากการใช้ที่ดินหลวง และ รถบรรทุกทรายวิ่งผ่านชุมชนนายอำเภอขานรับและยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายทุกราย

                                                                      

 -เมื่อวันที่5ตค64เวลา10.00น.นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล สส.สุรินทร์เขต2นำชาวบ้านตำบลกุดขาคีมอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์เข้าพบนายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรีว่า  เนื่องจากว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมากจากกรณีผู้ประกอบการใช้รถบรรทุกทรายวิ่งทั้งวันและกลางคืนและใช้ความเร็วในหมู่บ้านสร้างความหวาดเสียวให้กับชาวบ้านอย่างมากและทั้งยังให้มีการดูดทรายน่าจะผิดกฎหมายจึงขอฝากผ่านสื่อมวลชนไปถึงรัฐมนตรีคมนาคม หรืออธิบดีกรมเจ้าท่าเมื่อปล่อยโครงการลงมาในพื้นที่แห่งนี้ก็ควรลงมาตรวจสอบให้ด้วยว่าเขาทำถูกต้องหรือไม่ อย่าปล่อยให้ชาวบ้านต้องมารับกรรมหรือส่วนราชการที่ต้องคอยแก้ปัญหา  วันนี้ตนและชาวบ้านมาเพื่อร้องเรียนและติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวที่เคยร้องเรียนมา

– นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี ได้ชี้แจงว่าได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชน และ นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล ส.ส.จังหวัดสุรินทร์ กรณีประชาชนร้องเรียน การใช้ที่สาธารณประโยชน์โดยฝ่าฝืนกฎหมาย และ การบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ รวมทั้ง เหตุรำคาญจากการวิ่งรถบรรทุกผ่านชุมชนในยามวิกาล ในพื้นที่อำเภอรัตนบุรี

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว นายอำเภอรัตนบุรี ได้ชี้แจงให้ทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องและแจ้งให้ตรวจสอบดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว สำหรับผลการตรวจสอบการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ของคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปสำนวน เสนอต่อนายอำเภอรัตนบุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีการใช้ที่สาธารณประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ

เกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีทั้งทางอาญา และ ทางวินัย กับผู้เกี่ยวข้องทุกคน ในสัปดาห์หน้านี้ ซึ่งจะได้ส่งประเด็นให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้งพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป รวมทั้ง ได้สั่งสอบสวนเพิ่มเติม ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนอาจจะมีมูลความผิดทางวินัย ซึ่งยังต้องตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม โดยจักได้รายงานต่อ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.เขต 3 พิจารณาต่อไป ขณะเดียวกัน กรณีกล่าวหาว่ามีการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงอื่น ในคราวเดียวกัน ซึ่งปรากฎว่ามีการบุกรุก แผ้วถาง โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งยังไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิด ก็ให้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน ชาวบ้านพอใจในความคืบหน้าจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้านไป

ภาพข่าว/สุรเดช เหลาคำ

 

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม