พิษโควิด19ครูฝึกหางเครื่องหมอลำตกงานแรมปีรวมตัวกันรับจ้างรำหน้าศพรายได้พอประทังชีวิต
-หลังจากโควิด19ระบาดหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายอาชีพมีผลกระทบรายได้หดหายไปโดยเฉพาะกลุ่มหางเครื่องหมอลำหรือประเพณีที่จะต้องใช้การแสดง เช่นรำแห่บุญบังไฟ รำแห่นาค รำบวงทรวง กลุ่มเหล่านี้ไม่มีเจ้าภาพติดต่อจ้างแม้แต่งานเดียว พวกเขาเหล่านี้จึงหันมารับการแสดงรำหน้าศพได้ค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ4-5พันบาทต่อคนซึงเป็นรายได้ที่ไม่มากแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีงาน
-วันที่5 พย64 เวลา13.30น.เดินทางไปที่วัดป่าศรีคอนเตา ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นงานศพนายสมบัติ จันทร์รักษา อดีดสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลธาตุ 8 สมัยอายุ74ปีอยู่บ้านเลขที่25หมู่ที่12ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนาย คเนศวร เกษอินทร์นายอำเภอรัตนบุรีเดินทางมาเป็นประธาน มีแขกร่วมงานกว่า300คน ในช่วงก่อนที่จะมีการทอดผ้าบังสกุลพิธีกรได้ประกาศมีการรำหน้าไฟโดยคณะน้องต้อมเครื่องไทย ใช้นางรำ 5 คน แต่งตัวชุดอัปสรา สวยงาม ใช้เพลงทำนองเขมรหรือเพลงท้องถิ่นอีสานใต้ใช้ซอบรรเลงนำรำลึกผู้เสียชีวิตสร้างบรรยากาศในงาน ใช้เวลาในการรำ30นาที
-นายณัฐพงษ์ ภิญโญ หัวหน้าคณะน้องต้อมเครื่องไทย เล่าว่าเดิมทีพวกเรามีอาชีพรำตามงานต่างๆ เช่นรำแห่บุญบังไฟ รำงานแห่นาค บางครั้งก็รับงานหางเครื่องหมอลำหรือหางเครื่องดนตรี เรามีนางรำในสังกัด100กว่าคน ต่อมาเมื่อมีโรคระบาดโควิด19 เข้ามาพวกเราไม่มีงานแสดงเลย เพื่อความอยู่รอดเลยหันมาแสดงรำหน้าไฟได้ค่าจ้างไม่แน่นอน ราคาก็แล้วแต่กำลังของเจ้าภาพหากเจ้าภาพเอาชุดเล็กนางรำ5คนราคา3500บาทชุดใหญ่10คนราคา5000-6000บาทแล้วแต่ระยะทางด้วย รายได้รวมๆแล้วก็พออยู่ได้ ตนคิดว่าในอนาคตอีกไม่นานก็คงจะดีขึ้นเหมือนเดิมแน่นอน
ภาพข่าว/สุรเดช เหลาคำ