กรมอุทยานฯ ปลูกป่า หลังรื้อถอนบ้านพักตากอากาศคู่แฝดหรู ขณะที่จ่อรื้อถอน ทุบทิ้ง รีสอร์ทสุดหรู ราคา 30 ล้าน ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

กรมอุทยานฯ ปลูกป่า หลังรื้อถอนบ้านพักตากอากาศคู่แฝดหรู ขณะที่จ่อรื้อถอน ทุบทิ้ง รีสอร์ทสุดหรู ราคา 30 ล้าน ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

กาญจนบุรี กรมอุทยานฯ ปลูกป่า หลังรื้อถอนบ้านพักตากอากาศคู่แฝดหรู ขณะที่จ่อรื้อถอน ทุบทิ้ง รีสอร์ทสุดหรู ราคา 30 ล้าน ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

ตามนโยบาย ทส.ยกกำลังเอกซ์ ของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาดกับนายทุนผู้บุกรุกป่า แล้วยึดคืนมาฟื้นฟูเป็นป่าธรรมชาติดังเดิม

วันนี้ 11 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นางคณิสรา เชฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมปลัดอาวุโส อำเภอศรีสวัสดิ์ และผู้นำชุมชน ได้เข้าดำเนินการปลูกป่า จำนวน 2 ไร่ ในพื้นที่รื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูคู่แฝดจำนวน 2 หลัง มูลค่า 5 ล้านบาท ของ นายเชิดชู ทองชีวงค์ กับพวกรวม10 คน ที่ได้ปลูกสร้างคร่อมลำธาร บุกรุก ยึดถือครอบครอง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์โดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณป่าบ้านแม่กว้า หมู่ที่ 1 ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี

ต่อมาหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้แจ้งความส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ และได้มีคำสั่งให้รื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูดังกล่าว นายเชิดชู ทองชีวงศ์ กับพวกรวม 10 คน ก็ได้ยินยอมรื้อถอนด้วยตนเอง โดยได้นำคนงาน และเครื่องจักรเข้ามาทุบรื้อถอนตัวอาคาร และใช้รถแบคโฮ ตักซากอาคาร ใส่รถสิบล้อขนออกจากนอกพื้นที่ไปจนหมดตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.-8 พ.ย.64 ซึ่งใช้เวลารื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูคู่แฝดหรูภายใน 1 เดือน วันนี้คณะเจ้าหน้าที่จึงได้นำพื้นที่ดังกล่าว ที่ยึดคืนมาได้นำมาปลูกป่า ภายใต้โครงการปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า โดยการปลูกไม้ป่า อันได้แก่ มะค่าโมง ประดู่ป่า ยางนา ตะแบก จำนวน 200 กล้า เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นแหล่งต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของประชาชนทุกคน

หลังจากนั้น นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายคณิสรา เชษฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เดินทางไปตรวจสอบ “สวนพิศตะวันรีสอร์ท” ซึ่งเป็นรีสอร์หรูขนาดใหญ่ ราคา 30 ล้านบาท เพื่อเตรียมรื้อถอน ทุบทิ้ง ให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

สำหรับสาเหตุของการรื้อถอน ทุบทิ้ง รีสอร์ทดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2557 คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ในเขตท้องที่ป่าท่าแพขนานยนต์ หมู่ที่ 6 ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ พบบ้านพักตากอากาศชื่อ พิศตะวันรีสอร์ท อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

โดยมี นายสมภพ มีชูเวท เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ตรวจวัดพื้นที่รอบแปลงด้วย GPS คำนวณเนื้อที่ได้ 20 ไร่ พบสิ่งปลูกสร้างลักษณะรีสอร์ทขนาดใหญ่ จำนวน 17 รายการ ราคา 30 ล้านบาท อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงได้แจ้งความ นายสมภพ มีชูเวศ เจ้าของรีสอร์ท มีความผิดฐาน บุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ

ต่อมาคดีอาญาอัยการจังหวัดกาญจนบุรีมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เพราะขาดเจตนา กรมอุทยานฯได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 954,307 บาท ต่อมา นายสมภพ มีชูเวท ถึงแก่ความตาย และได้มี นางพิศมัย มีชูเวท เป็นผู้จัดการมรดกแทน โดยพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ยื่นฟ้อง นางพิศมัย มีชูเวท ผู้จัดการมรดก เป็นคดีความแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ 96/2561 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561ในระหว่างการพิจารณาของศาล นางพิศมัย ได้ขอเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายในการบุกรุกป่าให้กรมอุทยานฯ เป็นเงิน 600,000 บาท และผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 960/2561 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2561

สำหรับคดีทางปกครอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ออกคำสั่งที่ 71/2557 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ให้ผู้กระทำผิดทำลายหรือสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือทำให้สิ่งนั้นกลับสู่สภาพเดิมแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ตามความมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และมีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้กระทำผิดรื้อถอน ฉบับลงวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ต่อมาผู้กระทำผิดได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง โดยมีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในคดีหมายเลขดำที่ ส.14/2558 โดยศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษา ลงวันที่ 23 กันยายน 2564 ในคดีหมายเลขแดงที่ 154/2560 โดยศาลปกครองมีคำพิพากษา ให้รื้อถอนรีสอร์ทดังกล่าวได้ โดย นางพิศมัย มีชูเวท ผู้จัดการมรดก ไม่ได้อุทธรณ์ คดีปกครองถึงที่สุด

คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้เดินทางมาดูรีสอร์ทขนาดใหญ่สุดหรูดังกล่าว เพื่อเตรียมรื้อถอน ทุบทิ้ง รีสอร์ทดังกล่าว และนำพื้นที่ที่ได้ยึดคืนมา จำนวน 20 ไร่ มาฟื้นฟูสภาพป่าเพื่อเป็นมรดกของลูกหลานชาวไทยเพื่อส่วนรวมต่อไป./
/////////////////////////////


ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

ข่าวเหตุการณ์ทั่วไป ข่าวสถานการณ์