‘ วันนอร์ บุก ‘ยะรัง’ ยัน ‘ประชาชาติ’ ยึดพื้นที่ 12 เขต’
นายวันมูหะมัดนอร์มะทาหัวหน้าพรรคประชาชาติ พันตำรวจเอกทวีสอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติและส.ส. บัญชีรายชื่อ ตลอดจน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชาติในพื้นที่สาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางไปพบผู้นำศาสนา อุสตาซโรงเรียนตาดีกาในพื้นที่อำเภอยะรังมายอทุ่งยางแดง พร้อมทั้งยืนยันว่า พรรคประชาชาติ ตัดสินใจและอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งผู้สมัครในนามตัวแทนพรรคประชาชาติครบทั้ง 12 เขต ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และมั่นใจว่าพรรคประชาชาติจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั้ง 12 เขต และเหตุที่มั่นใจเช่นนี้เพราะเสียงตอบรับของประชาชนดีมากมาตลอดและผลงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชาติในรัฐสภาให้ความสำคัญกับชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ปัจจุบันพรรคประชาชาติเป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนในพื้นที่กว้างขวาง
” เมื่อตั้งพรรคใหม่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรายังไม่เป็นที่รู้จัก ยังได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนเลือกตัวแทนของพี่น้องประชาชนเข้าสู่รัฐสภารวมทั้งสิ้น 6 คน และทำให้เราได้ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 1 คน ส่วนในการเลือกตั้งในครั้งต่อไปไม่ว่าจะเป็นบัตร 2 ใบหรือบัตรใบเดียว พรรคประชาชาติ มั่นใจว่าคนงานต่างๆที่ได้กล่าวไปแล้วจะส่งผลให้พรรคประชาชาติได้คะแนนมากขึ้นและเป็นไปอย่างท่วมท้นทั้ง 12 เขต”
พันตำรวจเอกทวีสอดส่อง ยืนยันในลักษณะเดียวกัน พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ประชาชาติ อยู่ระหว่างการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาซึ่งมาจากตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่มาจากผู้นำฝ่ายบริหารมาจากกรรมการบริหาร ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ตัวแทนกลุ่มสตรี กลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่
” พรรคประชาชาติ ยอมรับว่า ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ต้องยอมรับว่าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองในส่วนของพรรคประชาชาติ เพราะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคประชาชาติจำนวนหนึ่งรายตัดช่องน้อยและแยกตัวเป็นอิสระซึ่งจะเป็นไปด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่มีความชัดเจนและยืนยันว่าในการคัดกรองผู้สมัครในคราวต่อไปพรรคประชาชาติจะใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนและมั่นใจอย่างยิ่งว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนคงยอมรับให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำๆแบบนั้นไม่ได้ในอนาคต” นาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวย้ำ
นอกจากนี้ พันตำรวจเอกทวีสอดส่องและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชาติรวม 4 คน ประกอบด้วย ซูการ์โน+ กมลศักดิ์+ สมมุติ และ กูเซ็ง ได้ไปพบ
ปะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่จังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างเยาวชนและพรรคประชาชาติ ตลอดจน ชี้ให้เห็นว่า เยาวชนคืออนาคตของชาติ ต้องร่วมมือร่วมแรงร่วมใจการพัฒนาพื้นที่ และต้องให้ความสำคัญกับการเมือง เพราะอนาคตของชาติและเยาวชน ต้องอาศัยการเมืองเป็นเครื่องมือหรือกลไกเพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง อีกทั้ง พรรคประชาชาติเป็นพักของพวกเราทุกคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่พรรคประชาชาติจะเป็นพรรค ของคนไทยทั้งประเทศและเป็นกลไกของการเปลี่ยนแปลงได้ จะต้องอาศัยพลังของเยาวชนและคนรุ่นใหม่
อนึ่ง ตัวแทนเยาวชนได้ตั้งคำถามที่น่าสนใจรวม 2 ประเด็นประกอบด้วย ประเด็นที่หนึ่งพรรคประชาชาติหลังจากการเลือกตั้งไม่มีบทบาทที่เด่นชัดในระดับพื้นที่โดยเฉพาะกับกลุ่มเยาวชนหรือคนรุ่นใหม่และในอนาคตพรรคประชาชาติจะกำหนดทิศทางหรือท่าทีอย่างไร ประเด็นที่สอง พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณได้ย้ายสาขาพรรคจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มาตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสพร้อมประกาศว่าจะกวาดที่นั่งส.ส. ในสามจังหวัดทั้ง 12 เขต/พรรคประชาชาติจะแก้เกมอย่างไรและทำอย่างไรหรือมีกลยุทธ์แบบไหนที่จะผลักดันให้อาจารย์วันนอร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อจะได้เป็นตัวแทนของพี่น้องมุสลิมและถือเป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นมุสลิมคนแรกของประเทศ
พรรคประชาชาติ ยืนยันอีกคำรบหนึ่งว่า พรรคประชาชาติไม่หนักใจในท่าทีของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะ เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่พลเอกประวิตรพูดและทำมันเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกันเสมอและยังไม่เข้าใจนัยของคำพูดดังกล่าว ว่าจะเป็นการกวาดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของตัวเองออกจากระบบหรือทั้ง 12 เขต หรือมีนัยยอื่น ในในประเด็นของกลุ่มเยาวชน พรรคประชาชาติตอกย้ำว่ายังคงให้ความสำคัญและมีนโยบายเพื่อตอบโจทย์ของเยาวชนคนรุ่นใหม่แต่อย่างไรก็ตามเยาวชนและคนรุ่นใหม่ก็ต้องมามีส่วนร่วมในการกำหนดวิธีการกระบวนการและแนวทางในการขับเคลื่อนเพื่อให้เยาวชนได้มีจุดยืนอย่างสมภาคภูมิ เพื่อกำหนดอนาคตของตัวเอง ส่วนในกรณีของอาจารย์วันนอร์ฯ เป็นเรื่องที่ไม่น่าหนักใจเพราะ อนาคตของพรรคประชาชาติ เป็นเรื่องที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดและหากพี่น้องประชาชนต้องการให้อาจารย์วันนฯ เป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ เยาวชนและพี่น้องทุกคนต้องพร้อมใจกันร่วมสนับสนุนพรรคประชาชาติในภาพรวม
