ผบ.ฉก.นราธิวาส ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ เน้นย้ำมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 เวลา 0900- 1630 น. พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พันเอกกำธร ศรีเกตุ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และคณะ เดินทางเดินทางลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ ในพื้นที่ ณ กองร้อยทหารพรานที่ 4811 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 หมู่ที่ 1 ตำบลริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส โดยได้พูดคุยสอบถามถึงสถานการณ์ และการปฏิบัติงานในพื้นที่ เน้นย้ำการปฏิบัติตามสั่งการของ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ในการรักษาความปลอดภัย การควบคุมพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมมอบเงินบำรุงขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่
จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้เดินทางต่อไปยัง ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหาพรานที่ 4506 ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส โดยได้พูดคุยสอบถามถึงสถานการณ์ และการปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมทั้งมอบนโยบาย และแนวทางในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ ตลอดจนได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานของชุดปฎิบัติการพิทักษ์พื้นที่ (ชป.พิทักษ์พื้นที่ )ต้องไม่ประมาท ลาดตระเวนเส้นทางให้เกิดความปลอดภัย คอยช่วยดูแลพื้นที่ สร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน
พร้อมทั้งเน้นย้ำ ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ ปฎิบัติงานด้วยความไม่ประมาท เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัยในพื้นที่รวมถึงมาตรการป้องกันฐานปฏิบัติการ รวมถึงได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติทางยุทธวิธี เพื่อให้กำลังพลมีความเข้าใจ และระมัดระวังในการปฏิบัติเเต่ละภารกิจ
ตลอดจนได้มอบนโยบาย ข้อสั่งการ สอบถามข้อขัดข้องในการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติงานตามแผน โดยจัดกำลังชุดปฏิบัติการ ลาดตระเวนแสดงกำลัง เข้าพบปะกดดันบุคคลเป้าหมายและกลุ่มเครือญาติ บ้านแนวร่วมที่คาดว่าใช้เป็นที่พักพิง ในพื้นที่ Support – site ชายป่าขอบเขา หมู่บ้านในเขตรอยต่อระหว่าง ฉก.ประจำพื้นที่ รวมถึงรอยต่อระกว่างอำเภอ เพื่อจำกัดเสรีในการปฏิบัติของกลุ่ม ผกร. พร้อมทั้งลาดตระเวนเส้นทาง และสกัดกั้น ตามเส้นทางหลัก ทำการ Pop-up ตามเส้นทางรอง ควบคุมเส้นทางเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายอาวุธ วัตถุระเบิดและจำกัดเสรีของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเพิ่มความเข้มของกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ ให้มากขึ้น โดยการดำเนินคดีอย่างเข้มงวด ต่อยานพาหนะที่ผิดกฎหมายที่มักนำไปใช้ในการประกอบระเบิด ได้แก่ รถที่ถูกแจ้งหาย, รถที่ใช้ทะเบียนปลอม, รถที่ไม่มีหลักฐานการครอบครองโดยบูรณาการการปฎิบัติร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำเภอ ในการให้ผู้นำท้องที่ นำกำลังภาคประชาน ในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน เข้าพบปะ กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และ ผู้นำทางศาสนา เพื่อชี้แจงข่าวสาร และรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมทั้งใช้กำลัง นปพ.ร่วมประจำจังหวัด เข้าปฏิบัติการเชิงรุกตามแผน และเป้าหมายที่กำหนด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนให้หน่วย ต้องเข้าใจถึงบริบทของพื้นที่ สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และต้องรู้จักการสังเกต วิเคราะห์ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ วางแผนการทำงานอย่างครอบคลุมตลอดเวลา ยึดมั่นการทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์คนดี ไม่สร้างเงื่อนไข มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในทุกๆด้าน ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และมั่นใจว่า ทหารจะสามารถเป็นที่พึ่งให้กับพี่น้องประชาชนได้เสมอ สิ่งสำคัญในช่วงที่มีการสับเปลี่ยนกำลังของแต่ละหน่วยในแต่ละพื้นที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ การเคลื่อนย้าย การเข้าพื้นที่ต้องมีการวางแผนและเพิ่มมาตรการด้านการข่าวอย่างเข้มข้น ปิดช่องโหว่ เส้นทางที่ล่อแหลมต่อการก่อเหตุ ทุกขั้นตอนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ สร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนในการทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน