“มูนโยส” “นักเซ็งลี้” เจ็ดประเทศ
เยาวชนหรือคนรุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นเก่าบางคน อาจจะไม่เข้าใจคำว่า “เซ็งลี้” หรือ “นักเซ็งลี้” จริงๆแล้วก็ ความหมายมันไม่ค่อยดี หมายถึงพวกแสวงหากำไร นักเก็งกำไร หรืออาจหมายถึง “พวกที่คิดแต่จะจับเสือมือเปล่าก็ได้” โดยคนพวกนี้ไม่คำนึงถึงจริยธรรมใด ๆ โกหกได้ก็จะโกหก โกงได้ก็จะโกง ละเมิดกฎหมายได้ก็ละเมิด หาหนทางใช้อภิสิทธิ์ใช้อำนาจรัฐมาอำนวยผลประโยชน์ส่วนตัว คนชนิดนี้ ไม่เคยขาดไปจากโลกใบนี้ มีคู่กันเสมอ ท่านม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช เคย เล่าเรื่องคนแบบนี้ไว้รายการ “เพื่อนนอน” เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2508 ผ่านมา 58 ปีแล้ว ผมได้ไปอ่านเจอในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ “ตามรอยคึกฤทธิ์” “มูนโยส นักเซ็งลี้เจ็ดประเทศ” คุณพี่ทองแถม นาถจำนง ได้เขียนไว้ดีทีเดียว เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 ปีที่แล้วครับ ท่านเขียนไว้ยาวมาก ผมจะอนุญาต นำสรุปพอสังเขป พอเข้าใจได้ก็แล้วกัน “เมื่อหลังจากที่ได้ตั้งคณะรัฐบาลปฏิวัติขึ้นใหม่ ๆสมัยก่อน 2508 ผมเกิดได้ 6 ขวบเองครับ ได้มีบุคคลคนหนึ่งเป็นชาวสเปน ชื่อนายมูนโยส เป็นที่รู้กันว่าเป็นมหาเศรษฐียิ่งใหญ่ ของโลกคนหนึ่งเข้ามาเมืองไทยตอนนั้น แล้วก็ได้เข้ามาเสนอโครงการที่จะมาพัฒนาประเทศไทย โดยรับมอบหมาย จากรัฐบาลไทยทีเดียวตอนนั้น แล้วนายมูนโยส ก็บอกว่ามีทุนมามากมายเพื่อจะมาทุ่มเทลงไป ในการพัฒนาเมืองไทยตอนนั้น จะสร้างโรงงานผลิตสินค้าต่าง ๆ แล้วก็จะสร้างอะไรต่ออะไรอีกมาก เป็นรายละเอียดใหญ่โต ก่อให้เกิดความตื่นเต้นกันพักใหญ่ในขณะนั้น นายมูนโยส ได้มาติดต่อกับกระทรวงการคลังตอนนั้น แล้วกระทรวงการคลังก็ได้เสนอขึ้นไปยังคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วก็ไม่รับแผนการของนายมูนโยส นายมูนโยสก็ได้หายไป นายมูนโยส เงียบหายไปหลายปี ต่อมาเป็นข่าวขึ้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ว่า นายมูนโยสถูกตำรวจสวิสเซอร์แลนด์จับตัว และจะดำเนินคดีต่อไปในข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ฉ้อโกง สำหรับ เรื่องราวของนายมูนโยสนั้นมีเงินทุนรอนมากมายจริง คือไปรับเงินมาจากบุตรชายของผู้เผด็จการ ทรูจิลโล แห่งสาธารณรัฐโดมินิกัน ผู้ซึ่งถูกยิงตายไป บุตรชายก็รับมรดกมาว่ากันว่าหลานพันล้าน แล้วเอาทุนไปให้ นายมูนโยส (ทำไมถึงให้นายมูนโยส ไม่มีใครทราบ) ออกไปหมุนนอกประเทศ นายมูนโยสได้เงินมาครั้งแรกคาดว่า มาประเทศไทยตอนนั้น ก็คงจะได้เงินจำนวนนี้มาด้วย แต่เผอิญประเทศไทยเราไม่ยอมรับตอนนั้น มติคณะรัฐมนตรีตอนนั้นคงมีอะไรที่สงสัย หรือไม่ชัดเจน จึงตกไป ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นายมูนโยสไปถึงก็เอาเงินไปฝากไว้ในธนาคารในประเทศสวิสเซอร์แลนด์สองธนาคาร ซึ่งธนาคารอื่น ๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ อาจเห็นว่าไม่ชอบมาพากล จึงไม่รับฝาก มีเพียงสองธนาคารสองธนาคาร ที่ว่ามา รับฝากเงินก้อนใหญ่ของนายมูนโยส ต่อมานายมูนโยส ก็ตั้งธนาคารของตนขึ้นเองอีกในกรุงโรม และนอกจากนั้นก็ไปตั้งบริษัทการค้าขึ้นในประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปและปานามา ตลอดจนในเมืองเบรุต ในอัฟริกาเหนือ ในเมืองแอลดอร่า ในประเทศลุกเซมเบิร์ก ก็เป็นประเทศเล็ก ๆ ทั้งนั้น นายมูนโยสก็แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป นายมูนโยสก็ไปหมุนเอาเงินจากที่อื่นมาเหมือนกันนอกจาก เงินของตนเอง และเงินที่ขอยืมมาจากที่อื่นบ้าง เมื่อตั้งแบงก์ขึ้นแล้วนายมูนโยสก็ยืมเงิน จากแบงก์ที่ตัวเองตั้งขึ้นเอง ตลอดจนแบงก์ที่ตัวเอาเงินไปฝากนั้นเอง ออกมาทำกิจการเป็นการใหญ่ ไปลงทุนในที่ดินในยุโรปมหาศาลทีเดียว ต่อมาตลาดที่ดินในยุโรปเกิด ราคาที่ดินตกต่ำ นายมูนโยสไปลงทุนใว้ กิจการก็ไม่สามารถที่จะดำเนินไปได้ ธนาคารในสวิสเซอร์แลนด์สองธนาคารซึ่งเป็นธนาคารที่นายมูนโยสนำเงินไปฝากนั้น ได้ขออนุญาตรัฐบาลระงับกิจการของตนเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อชำระสะสางหนี้สิน แล้วก็เพื่อปรับกิจการให้เข้าสู้เสถียรภาพที่จะเปิดดำเนินการได้ และต่อมาอีก ธนาคารที่นายมูนโยสเป็นผู้ตั้งขึ้นเองที่กรุงโรม ก็ขอระงับกิจการหนี้สินของตนเป็นเวลาหนึ่งปี โดยขออนุญาตจากรัฐบาลเช่นเดียวกัน ต่อมาอีกเพื่อนของนายมูนโยสซึ่งเป็นประธานธนาคารในสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งนายมูนโยส นำเงินไปฝากไว้นั้น และเป็นกรรมการธนาคารของนายมูนโยส ที่กรุงโรมด้วย ก็ถูกตำรวจจับในข้อหาฉ้อโกง และต่อมาอีก ตำรวจสวิสเซอร์แลนด์ก็จับนายมูนโยสเช่นเดียวกันในข้อหาว่า ฉ้อโกง ! ก็นี่แหละ มันก็เข้ากับสุภิตโบราณที่ว่า “คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ” หน้าตาของ นายมูนโยส จะเป็นอย่างไร ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ “นักเซ็งลี้” ที่เป็นไทยแท้ๆก็มี ใช่ว่าจะมีแต่ฝรั่ง บ้านเรามักเรียกอีกอย่าง เช่น พวกทะแนะ พวกตีนศาล ตีนโรงพัก ตีนศาลากลางจังหวัดต่างๆ แต่คนพวกนี้ เขามีพรแสวง ที่พูดอะไรแล้ว น่าเชื่อไปหมด เข้าเป้าทุกที จริงมั๊ยท่าน !!! (ขอบคุณภาพประกอบบทความจากอินเตอรืเน้ตครับ)
บก.น้ำ นสพ.แผ่นดินไทยโพสน์ – นสพ.อิสเทิร์นอุดร
สนใจลงโฆษณาโทร0933427988