ติดตามความคืบหน้าอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬน่าจะกระทำความผิด

ติดตามความคืบหน้าอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬน่าจะกระทำความผิด

เครือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นติดตามความคืบหน้าอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬน่าจะกระทำความผิด ไม่ปล่อยให้ลอยนวล

ประธานเครือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นรายงานว่าตามหนังสือที่อ้างถึง บันทึกการตรวจสอบ ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 เจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้บึงกาฬ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.บุ่งคล้า ได้ร่วมกันตรวจสอบการก่กอสร้างถนน กับเครือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ว่ามีการก่อสร้าง ถนนสาย บก 026-เชิงลาดสะพานห้วยเรือ บ้านห้วยเล็บมือ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ มีการรุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าดงภูวัว)

            โดยคณะเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบตามเส้นทางก่อสร้าง ทางหลวงแผ่นดิน 212-ถึงถนนบ้านห้วยเล็บมือ โดยใช้เครื่อง GPS หาค่าพิกัดดาวเทียม พบบริเวณที่รับแจ้งพบป้ายโครงการก่อสร้าง จำนวน 1 ป้าย (รายละเอียดตามภาพถ่ายท้ายบันทึกฉบับนี้) จึงได้ทราบว่าเส้นทางก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของทางหลวงชนบทจังหวัดบึงกาฬ

            หลังจากนั้นได้นำค่าพิกัด GPS ที่ได้เก็บข้อมูลจากจุดเกิดเหตุ มาจำลองลงในแผนที่ จากการวัดพื้นที่ด้วยระบบ GPS เส้นทางจากจุดเริ่มต้น-ถึงจุดสิ้นสุด มีระยะทางยาวประมาณ 2,338 เมตร กว้างประมาณ 10 เมตร คิดเป็นพื้นที่ 14-2-44 ไร่ พบการก่อสร้างท่อระบายน้ำ 1 แห่ง และสะพานคอนกรีตบริเวณห้วยเรือ 1 แห่ง จากการตรวจสอบในเบื้องต้นตามค่าพิกัด GPS ถนนเส้นทางดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าดงภูวัว) (ตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงฉบับที่ 205 พ.ศ. 2510) ระยะทางในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าดงภูวัว) ประมาณ 1,367 เมตร อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินประมาณ 175 เมตร และอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ประมาณ 796 เมตร (และยังไม่สามารถระบุในเบื้องต้นได้ว่าเป็นที่ดินประเภทใด) ตลอดเส้นทางกำลังกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

            คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบบริเวณที่ดำเนินการก่อสร้างตลอดเส้นทางแล้วปรากฎว่าเส้นทางดังกล่าว บางส่วนมีแนวเขตอยู่ในพื้นที่ที่มีการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและนำเดินตามกฎหมายไว้แล้ว ดังนี้

  1. เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 ตรวจยึดพื้นที่ จำนวน 44-2-44 ไร่ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า ตาม ปจว. ข้อ 1 ตามเวลา 02.00 น. คดีอาญาที่ 104/2558 ยึดทรัพย์ที่ 35/2558 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2558 คดีนี้อยู่ระหว่างการติดตามผลคดี
  2. เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ตรวจยึดพื้นที่จำนวน 0-0-60 ไร่ ผู้ต้องหา 1 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า ตาม ปจว.ข้อ 1 เวลา 17.00 น. คดีอาญาที่ 169/2559 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2559
  3. เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2558 ตรวจยึดพื้นที่ถนนลูกรังยาว 500 เมตร และต่อช่วงถนนคอนกรีตยาว 200 เมตร และเสาไฟฟ้าแรงสูง จำนวน 5 ต้น พร้อมสายไฟยาว 700 เมตร นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า ตามปจว. ข้อ 4 เวลา 16.20 น. ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2558 คดีอาญาที่ 105/2558
  4. พื้นที่ตรวจยึดและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า จำนวน 2 คดี จะได้นำส่งรายละเอียดแนบบันทึกนี้ต่อไป

โดยคดีทั้งหมดกำลังดำเนินการเร่งรัดติดตามผลคดีให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

            และเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 เวลา 10.00 น. ได้มีประชุมการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนการบุกรุก ป่าชุมชนบ้านห้วยเล็บมือ ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอบุ่งคล้า ได้มีหลายหน่วยงานเข้าร่วมประชุมได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ช่างรังวัด สำนักฯ (อุดรธานี) ว่าบริเวณดังกล่าวได้มีโครงการปรับปรุงแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูวัว แต่ขั้นตอนอยู่ระหว่างการดำเนินการ (ตามบันทึกรายงานการประชุม) ซึ่งในส่วนของคดีอาญาได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว แต่ในส่วนการดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกระทรวงมหาดไทยอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ และสังกัดกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงชนบทบึงกาฬ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ล่าช้า ถ่วงเวลา ไม่รีบดำเนินการให้ทันระยะกรอบเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้

            แม้กระทรวงมหาดไทยได้มีการลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่กระบวนการล่าช้า ถ่วงเวลา เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วเป็นผู้อนุมัติการจัดซื้อจัดจ้าง การใช้งบประมาณของจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งรายละเอียดแนบท้ายมาพร้อมนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้ร้อง เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพ เป็นเรื่องการกล่าวหาบุคคลอื่น  หากในเรื่องดังกล่าวไม่ได้ติดตามดำเนินการให้รวดเร็วและเป็นธรรมแล้ว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงประเด็นให้ท่านดำเนินการสอบข้อเท็จจริง หากพบการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในเรื่องดังกล่าวนี้ ให้ถึงที่สุด มีดังนี้

  1. การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ทั้งหมด 4 แปลง เลขที่ 2253, 2254, 2507, 2251 มีนายจงรักษ์ ธัญโรจน์วราธร อ้างว่า เป็นผู้อุทิศหนังสือรับรองการทำประโยชน์บางส่วน ให้ก่อสร้างถนนนั้น มีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ทั้ง 4 แปลง ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
  2. การอุทิศของ นายจงรักษ์ ธัญโรจน์วราธร ที่อ้างว่า เป็นผู้อุทิศที่ดิน ให้มีการก่อสร้างถนนนั้นตรงจุดพิกัดในการอุทิศชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่
  3. เหตุใดปลัดกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดบึงกาฬ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ล่าช้า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้รับประโยชน์หรือไม่ เพราะหากดำเนินการสอบข้อเท็จจริงจะลงโทษทางวินัยต้องภายในระยะเวลา 3 ปี

ทั้ง 3 ประเด็น ถือว่าเป็นสาระสำคัญในการอำนวยความเป็นธรรมและปกป้อง

ทรัพยากรธรรมชาติ ป้องปรามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าไปแสวงหาประโยชน์ในที่ดินของรัฐไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

 

ภาพข่าว/สำนักข่าวแผ่นดินไทยโพสต์

ติดต่อลงโฆษณากับสุรเดช เหลาคำ โทร.0933427988

ร้องทุกข์ ร้องเรียน