สุดยอดอำเภอเล็กแต่จัดงานได้อย่างยิ่งใหญ่บุญบั้งไฟอำเภอโนนนารายณ์ประจำปี68มีประชาชนร่วมงานนับหมื่น

สุดยอดอำเภอเล็กแต่จัดงานได้อย่างยิ่งใหญ่บุญบั้งไฟอำเภอโนนนารายณ์ประจำปี68มีประชาชนร่วมงานนับหมื่น

สุดยอดอำเภอเล็กแต่จัดงานได้อย่างยิ่งใหญ่บุญบั้งไฟอำเภอโนนนารายณ์ประจำปี68มีประชาชนร่วมงานนับหมื่น

เมื่อวันที่7พ.ค.68เวลา09.30น.ที่หน้าที่ว่าการอำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์มีขบวนแห่บั้งไฟเริ่มต้นที่ขบวนนางรำแต่งตัวแบบชนเผ่าอีสานดนตรีประกอบเป็นดนตรีสดประเภทกลองยาวร่ายรำตามจังหวะเซิ้งและจังหวะกลองยาวสวยงามต่อด้วยบั้งไฟสวยงาม ขบวนสร้างเสริมแสดงถึงการบอกเล่าตำนานบุญบั้งไฟและวิถีความเป็นอยู่ของชนเผ่าในพื้นที่ ที่ประทับใจคือความเป็นหนึ่งเดียวของคนในพื้นที่ที่ได้แสดงออกให้นักท่องเที่ยวได้เห็น แต่ละขบวนมีผู้ร่วมขบวนกว่าสามร้อยคน อีกทั้งภายในงานแต่ละตำบลยังจัดร้านแสดงของดีแต่ละตำบลให้นักท้องเที่ยวได้ชมอย่างมากมายโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ผลพลิตที่ปลูกเองในท้องถิ่นมาแสดงอย่างมากมาย จากนั้นนายพลเศรษฐ์ คมอุ่นดี รักษาการนายอำเภอโนนนารายณ์ ได้กล่าวรายงานต่อท่านชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ความเป็นมาในการจัดงาน และเชิญท่านผู้ว่ามอบเกียรติบัตรให้กับซุ้มเศรษฐกิจพอเพียง การประกวดขบวนแห่บั้งไฟ

อำเภอโนนนารายณ์ตั้งตามชื่อหมู่บ้านเดิมซึ่งได้ประสพภัยแล้งขึ้นในพื้นที่หมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงทำให้ดินแตกระแหงเนื่องจากแห้งแล้งมากทั้งยังมีโรคฝีดาษระบาดประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวรดังกล่าวติดโรคเป็นแผลเป็น จำเป็นต้องอพยกย้ายถิ่นมาในบริเวรที่ตั้งอยู่ปัจจุบันแล้วเรียกชื่อในสมันนั้นว่า โนนหน้าลาย ประกอบกับใกล้บริเวรพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของเทวาลัยที่เก่าแก่ ทั้งยังมีศาลเจ้าแม่โนนนารายณ์ ที่ชาวบ้านนับถือเซ่นบวงสรวงจนถึงปัจจุบัน  ต่อมาได้ตั้งชุมชนขึ้นมาใหม่ใช้ชื่ออันเป็นมงคลว่า โนนนารายณ์ เมื่อปี2540กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศยกฐานะเป็นเขตปกครอง ประกอบด้วย5 ตำบล 68 หมู่บ้านออกจากเขตปกครองอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเมื่อวันที่8กันยายน2550ได้ยกฐานะเป็นอำเภอจนถึงปัจจุบัน

 

ประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นกิจกรรมของชนเผ่าอีสานที่อาศัยในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์มานานหลายชั่วอายุคนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมนี้มาจนถึงปัจจุบันเป็นหนึ่งในฮีดสิบสองของของชาวอีสานนิยมทำกันในเดือนหกอันเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝนเข้าสู่การทำนา ตกกล้า หว่านไถ เพื่อเป็นการบูชาพญาแถนขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล

ในปีนี้ได้มีเขยชาวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากและคิดว่าปีต่อๆไปจะมีชาวต่างชาติมาร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน

 

ภาพข่าว/สำนักข่าวแผ่นดินไทยโพสต์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม