โต๊ะครูปอเนาะกาลิซา “เผย” ถกกับผู้นำศาสนา หากพบใครเสพ จะเรียกผู้ปกครองเอากลับบ้าน ไม่ใช่ปล่อยให้ปอเนาะเป็นศูนย์บำบัด ตัวแทนเด็กปอเนาะไม่เห็นด้วยให้พืชกระท่อมถูกกฎหมาย
สถาบันศึกษาปอเนาะอัลมะฮาดุลร็อบบานี ซึ่งตั้งอยู่ 174 ม.2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็น 1 ใน 3 สถาบันปอเนาะที่ตั้งอยู่ใน ต.กาลิซา ที่ได้เข้าร่วมโครงการเดินหน้าปฏิบัติการ 120 วัน ยุติพืชกระท่อมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่ได้มีการมอบหมายให้ทาง ศอ.บต.เป็นผู้รับผิดชอบขับเคลื่อน ซึ่งการดำเนินงานของนายอิบรอเฮม กละ โต๊ะครูสถานบันศึกษาปอเนาะแห่งนี้ดำเนินการเป็นที่น่าพอใจ มีการสอดแทรกนำไปประยุทธ์ใช้กับหลักคำสอนของศาสนา ที่บอกเล่าให้เด็กนักเรียนได้รับทราบ พืชกระท่อมแม้จะถูกหรือผิดกฎหมาย มันเป็นฮะรอมสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนา การเข้าไปยุ่งเกี่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม ถือว่าเป็นความผิดพลาดในการเดินทางไปสู่แหล่งอบายมุข และทางสถาบันปอเนาะฯ ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองนักเรียนสอดส่องดูแลพฤติกรรมเด็ก หากผิดปกติอย่างน้อยต้องแจ้งสถานบันปอเนาะให้รับทราบ เพื่อที่จะได้ติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง หากพบจะได้มีการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพื่อให้เด็กได้หลุดพ้นจากพวงอบายมุขโดยเร็ว ก่อนที่จะต้องสูญเสียอนาคต
ด้านนายอิบรอเฮม กละ โต๊ะครูสถาบันศึกษาปอเนาะอัลมะฮาดุลร็อบบานี กล่าวว่า ในส่วนของใบกระท่อมที่กฎหมายกำหนดเป็นยาเสพติดและในส่วนของทางศาสนาอิสลามเป็นสิ่งฮะรอม (ผิดหลักศาสนา) ก็ผิดมาโดยตลอด ในกรณีที่เด็กเสพยาเสพติดเข้ามาเรียนในสถาบันปอเนาะแห่งนี้เราก็จะมีการสืบประวัติและติดตามพฤติกรรมอยู่ตลอดไม่ว่าจะไปที่ไหนคบกับเพื่อนคนไหน เมื่อทราบข่าวว่าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เราจะมีการตัดเตือนพร้อมให้คำแนะนำให้เขาหยุด แต่ถ้าไม่หยุดเราจะแจ้งพ่อแม่ให้มารับและหยุดเรียน ในส่วนของเด็กที่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเราจะมีการแนะนำอยู่ตลอด ตักเตือนพร้อมแนะนำ ในส่วนของโทษทางศาสนาและโทษทางกฎหมาย พร้อมกันนี้เราจะช่วยกันอ่านดุอาอ์ขอพรจากอัลลอฮ เพื่อไม่ให้เด็กยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด และให้พ่อแม่เข้าใจถึงยาเสพติด และบอกครอบครัวให้คำแนะนำกับบุตรหลานด้วย ไม่ใช่ว่าให้เด็กมาอยู่ในปอเนาะแล้วปล่อยปละละเลย และได้มีการพูดคุยกับผู้นำในพื้นที่ ในเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้มีโอกาสได้ไปสุ่มพูดคุยกับตัวแทนเยาวชน ที่ศึกษาในสถาบันปอเนาะอัลมะฮาดุลร็อบบานี ซึ่งเป็นสถาบันปอเนาะชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ถึงได้ถือโอกาสเข้าไปสัมผัสกับชีวิตเด็กนักเรียน ที่ต่างคนต่างพากันทำความสะอาดเก็บกวาดบริเวณรอบที่พัก และบางคนก็ลากลับไปเยี่ยมบ้าน ที่สดุดตามีนักเรียนคนหนึ่งเดินเข้าทักทายด้วยวาจาอ่อนโยนและสุภาพ เราจึงได้ลองสอบถามเกี่ยวกับพืชกระท่อม โดยนักเรียนคนดังกล่าวพูดกับเราด้วยเหตุและผลรวมทั้งข้อดีข้อเสีย
นักเรียนคนดังกล่าวคือ นายคอลีซ บูนำ นักเรียนสถาบันศึกษาปอเนาะอัลมะฮาดุลร็อบบานี อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กล่าวสรุปเพียงสั้น ๆ ว่า สถานบันปอเนาะแห่งนี้ใบกระท่อมเป็น 1 ข้อที่เป็นข้อห้ามในสถาบันปอเนาะแห่งนี้ ซึ่งเมื่อก่อนคนแก่เขาเอาไว้เพื่อเป็นยารักษาโรค อาทิ แก้ปวดท้อง แก้ท้องผูก แต่คนเดี๋ยวนี้คนเอาไปผสม ซึ่งถ้าหากว่ากินแค่น้ำกระท่อมโดยไม่ผสมยามันก็เป็นยารักษาโรคได้ แต่เมื่อนำน้ำกระท่อมไปผสมกับยาบางตัวมันก็เป็นข้อเสีย จึงไม่เห็นด้วยกับการที่ใบกระท่อมถูกกฎหมาย เพราะข้อเสียของมันมีเยอะเกินไป.
ภาพ/ข่าว ปทิตตา หนดกระโทก จ.นราธิวาส โทร 082-4154474
ศูนย์ช่าวภาคใต้ นสพ.แผ่นดินไทยโพสต์