กาญจนบุรี ผอ.ทสจ.นั่งหัวโต๊ะ ถกปัญหาช้างป่า สรุปท้องถิ่นตั้งงบเยียวยาได้ หากช้างป่าทำร้ายถึงชีวิต ญาติรับ 2.9 หมื่นบาท หากเป็นเสาหลักรับเยียวยา 2 เท่า ส่วนพื้นที่เกษตร เยียวยาครอบครัวละไม่เกิน 30 ไร่

กาญจนบุรี ผอ.ทสจ.นั่งหัวโต๊ะ ถกปัญหาช้างป่า สรุปท้องถิ่นตั้งงบเยียวยาได้ หากช้างป่าทำร้ายถึงชีวิต ญาติรับ 2.9 หมื่นบาท หากเป็นเสาหลักรับเยียวยา 2 เท่า ส่วนพื้นที่เกษตร เยียวยาครอบครัวละไม่เกิน 30 ไร่

กาญจนบุรี ผอ.ทสจ.นั่งหัวโต๊ะ ถกปัญหาช้างป่า สรุปท้องถิ่นตั้งงบเยียวยาได้ หากช้างป่าทำร้ายถึงชีวิต ญาติรับ 2.9 หมื่นบาท หากเป็นเสาหลักรับเยียวยา 2 เท่า ส่วนพื้นที่เกษตร เยียวยาครอบครัวละไม่เกิน 30 ไร่

วันนี้ 7 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศูนย์ป่าไม้กาญจนบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายวิมล อึ้งพรหมบัณฑิต ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรณชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานประชุมการแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

โดยมี นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง) นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อ.เมือง นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค น.ส.ปภัสร์ลภัส แดงกูล นายก อบต.ช่องสะเดา นายวีระ แก้วมณี รองนายกเทศบาลตำบลทองผาภูมิ นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา ในฐานะประธานคณะกรมการเครือข่าย ทสม. ตำบลช่องสะเดา

รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ท่องถิ่นอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค อำเภอเมือง อำเภอทองผาภูมิ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ที่มีปัญหาช้างป่าออกมาหากินนอกพื้นที่ทุกแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมประชุม สำหรับการประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

ทั้งนี้นายวิมล อึ้งพรหมบัณฑิต ผอ.ทสจ.กาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังว่าสืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 23-24 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ

ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติ และการดูแลสัตว์ป่าโดยปัญหาช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระออกมาหากินนอกพื้นที่ทำให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบได้รับความเดือดร้อน ในวันดังกล่าวผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี เร่งดำเนินการหาทางแก้ไขปัญหาช้างป่าทั้งจังหวัด

ดังนั้นวันนี้ ทสจ.กาญจนบุรี จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาร่วมประชุมหารือศึกษาแนวทางในการป้องกันไม่ให้ช้างป่าออกมาทำลายทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน ตลอดจนหามาตรการในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า

ซึ่งแนวทางในการแก้ไขปัญหาสรุปได้ว่า เราได้มีการทำรั้วไฟฟ้า คูป้องกันช้าง ปลูกพืชอาหารช้างในพื้นที่ผ่าชั้นใน รวมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในการผลักดันช้างรวมทั้งจัดอบรมให้กับชาวบ้านในการผลักดันช้างให้ถูกต้องตามหลักวิชาการเพื่อไม่ให้ชาวบ้านกับช้างป่าทำลายซึ่งกันและกัน

การประชุมในวันนี้ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือประเด็นการเยียวยา เพราะเมื่อชาบ้านได้รับผลกระทบจากช้างป่าแล้วเราจะต้องมีการเยียวยากัน ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเยียวก็คือ เมื่อราษฎรเสียชีวิตจากการที่ถูกช้างป่าทำร้าย จะได้เงินเยียวยาในการทำศพ จำนวน 29000 บาท หากผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัวที่ถือว่าเป็นเสาหลักจะได้รับเงินเยียวเพิ่มสูงขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว

ส่วนความเสียหายด้านพืชผลทางด้านการเกษตร จะมีการประเมินราคาตามจริง โดยจะได้รับเงินเยียวยาครอบครัวละไม่เกิน 30 ไร่ ส่วนการตั้งงบประมาณในการเยียวยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆสามารถตั้งงบเองได้ หากงบประมาณไม่เพียงพอ สามารถของบประมาณจากกระทรวงการคลัง โดยผ่านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีได้

โดยในขณะนี้เรากำลังประมวลเรื่อง ภายในหนึ่งอาทิตย์จากนี้ไปเราจะส่งเรื่องรายงานไปถึงนายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทราบ เพื่อที่จะได้หาแนวทางและมาตรการย้อนกลับไปช่วยเหลือประชาชนซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้ม รวมทั้งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก./
///////////////////////////////////////////////////////////////
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม