สิงห์บุรี – สาวใหญ่ตีเนียนซื้อของแต่ไม่จ่ายเงินถูกจับได้ ยอมรับทำมาแล้วหลายครั้ง

สิงห์บุรี – สาวใหญ่ตีเนียนซื้อของแต่ไม่จ่ายเงินถูกจับได้ ยอมรับทำมาแล้วหลายครั้ง

สิงห์บุรี – สาวใหญ่ตีเนียนซื้อของแต่ไม่จ่ายเงินถูกจับได้ ยอมรับทำมาแล้วหลายครั้ง

จากกรณีที่ ร้านเจ๊หม่อง อาหารแปรรูป ในตลาดสดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ใช้ชื่อเฟซบุ๊กส์ว่า : Likit Sp ได้โพสต์คลิปและภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อเตือนภัยกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ผู้ประกอบการ ร้านค้าส่ง-ค้าปลีก ในจังหวัดสิงห์บุรี และให้รางวัลนำจับผู้ที่ชี้เบาะแสว่าผู้ต้องสงสัยที่ขโมยของในร้านแล้วไม่จ่ายเงินตามคลิปนั้นเป็นใคร โดยผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงรูปร่างท้วม รัดผม ใส่แมส สวมผ้ากันเปื้อน ใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีเทาขณะกำลังขโมยของในร้านโดยไม่จ่ายเงินและขี่รถจักรยานยนต์สีแดง โดยไม่เห็นป้ายทะเบียนออกไป หลังจากโพสต์ไปมีผู้ช่วยแชร์ออกไปอย่างมากมาย และได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2564

โดย นางวารีญา ศรีพล อายุ 52 ปี เจ้าของร้าน เจ๊หม่อง อาหารแปรรูป และ นางรวีวรรณ แสงวิชา อายุ 34 ปี หลานสาว ได้ให้สัมภาษณ์ว่า โดยปกติร้านจะเปิดขายของตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเก้าโมงเช้า โดยระบบการขายของที่ร้านคือ ลูกค้าก็จะเลือกสินค้าที่ต้องการซื้อใส่ถุงมาวางไว้ พอเลือกเสร็จแล้วก็จะให้เจ้าของร้านมาคิดเงิน ซึ่งลูกค้าบางคนจะไปซื้อของที่อื่นต่อก็จะวางถุงบรรจุสินค้าของตนไว้หน้าร้านก่อน แต่สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยรายนี้ คือ ใช้จังหวะช่วงชุลมุนที่มีลูกค้าเยอะๆ หยิบสินค้าในร้านใส่ถุงออกไปนอกร้านโดยไม่จ่ายเงิน หลังจากหิ้วถุงแรกไปแล้ว ยังเดินกลับเข้ามาหยิบของที่เลือกใส่ถุงไว้อีก แต่พอเห็นว่ามีคนจับตามอง จึงนำถุงที่ 2 วางไว้ไม่กล้านำออกไป แต่เดินไปหยิบหมูบด 1 ก.ก.ใส่ถุง แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน โดยจ่ายเงินแค่ 60 บาท ค่าหมูบดเท่านั้นแล้วขี่รถ จยย. ออกไป หลังจากวันนั้นก็ไม่มาอีกเลย จึงไปดูที่กล้องวงจรปิดพบว่ามีพฤติกรรมลักทรัพย์ไปจริงๆ และน่าจะทำแบบนี้มาหลายครั้ง พอโพสต์เฟซบุ๊กส์ไปเพื่อหาผู้ต้องสงสัยไม่นานก็มีผู้แจ้งเบาะแสว่า ผู้ต้องสงสัยคนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับแม่ค้าที่ขายของลูกชิ้น ไก่ย่าง อยู่ที่ในเขตตำบลโรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ทางร้านจึงนำข้อมูลไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แจ้งความไว้

ล่าสุดวันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2564) เวลา 11.45 น. ชุดสืบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้ร่วมจับกุมตัว น.ส.ชรินทร์พร มากศรี อายุ 36 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ที่ 3 ตำบลโรงช้าง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย คดีลักทรัพย์ที่ร้าน เจ๊หม่องอาหารแปรรูป ริมถนนสิงห์บุรี-อ่างทอง หมู่ที่ 7 ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี และได้ตรวจยึดของกลางคือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น Finn สีแดง-ดำ-เทา หมายเลขทะเบียน 1 กข 7163 สิงห์บุรี จำนวน 1 คัน และเสื้อคลุมที่ใส่ในวันก่อเหตุแขนยาวสีเทา จำนวน 1 ตัว แล้วนำมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี เมื่อทำการสอบสวนเกี่ยวกับเหตุลักทรัพย์ดังกล่าว น.ส.ชรินทร์พร ให้การรับสารภาพว่า ได้ลักทรัพย์เป็นลูกชิ้น, หมูบด และปลาเส้น ไปจากร้านเจ๊หม่องอาหารแปรรูปจริง และต่อมามี นางละออ ทองสุข อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายปลาแม่น้ำทุกชนิดในตลาดสดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ได้สงสัยว่าผู้ต้องหาคือ น.ส.ชรินทร์พร จะเป็นคนเดียวกับผู้ต้องสงสัยที่ขโมยเงินของตนไป โดยมีพฤติกรรมคือ ได้นำปลาแม่น้ำมาขายและยืนคุย ซึ่ง นางละออ ปกติจะมีเงินสดไว้ซื้อปลาใส่ไว้ในกระเป๋าเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ชอบสะพายไว้กับตัว ชอบวางไว้ด้านหลัง วันต่อมา น.ส.ชรินทร์พร ก็ได้นำปลามาขายอีก และได้เดินอ้อมไปด้านหลังร้านแล้วทำทีคุยกับ นางละออ ซักพักก็ขับรถไป เมื่อนางละออ จะหยิบเงินไปจ่ายค่าปลาจึงได้รู้ว่าเงินหายไปเป็นจำนวน 5 หมื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เงินเคยหายไป 2 หมื่น นางละออ ก็เคยสงสัยในตัว น.ส.ชรินทร์พร เลยให้ลูกชายแอบถ่ายรูปและทะเบียนรถไว้ เมื่อทราบว่าวันนี้ได้จับกุมตัว น.ส.ชรินทร์พร ได้ จึงมาชี้ตัว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน น.ส.ชรินทร์พร จึงได้ยอมรับว่าขโมยเงินจาก นางละออ ไปจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการส่งตัว น.ส.ชรินทร์พร ให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ณัฏฐนารา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี

 

ข่าวอาชญากรรม