ไฟป่าสะเมิงใกล้มอด เหลือแค่ไฟติดตามตอไม้ สั่งลำเลียงน้ำเข้าดับให้สนิทแล้ว “รองรัฐพล” รับคำสั่งผู้ว่าลงพื้นที่สั่งการด้วยตัวเอง

ไฟป่าสะเมิงใกล้มอด เหลือแค่ไฟติดตามตอไม้ สั่งลำเลียงน้ำเข้าดับให้สนิทแล้ว “รองรัฐพล” รับคำสั่งผู้ว่าลงพื้นที่สั่งการด้วยตัวเอง

ไฟป่าสะเมิงใกล้มอด เหลือแค่ไฟติดตามตอไม้ สั่งลำเลียงน้ำเข้าดับให้สนิทแล้ว “รองรัฐพล” รับคำสั่งผู้ว่าลงพื้นที่สั่งการด้วยตัวเอง

วันที่ 30 มี.ค. 64 ศูนย์บัญชาการแก้ไขป้องกันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานความคืบหน้าการแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อำเภอสะเมิง ว่า จากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อำเภอสะเมิง ซึ่งในช่วงบ่ายของวันที่ 29 มีนาคม 2564 และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 พื้นที่บ้านศาลา-ป่ากล้วย หมู่ที่ 4 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง โดยข้อสั่งการของ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนเข้าทำการดับไฟ และร่วมเฝ้าระวัง รวมถึงการจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่โดยรอบ พร้อมกันนี้ได้มีการเสริมกำลังเฮลิคอปเตอร์เข้าในพื้นที่รวม 5 ลำ ขึ้นปฏิบัติการดับไฟ และเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินทำการสกัดไฟป่าที่เกิดขึ้น

กระทั่งช่วงเวลา 11.30 น. ของวันนี้(30 มี.ค.) นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ อ.สะเมิง เพื่ออำนวยการดับไฟป่าที่เกิดขึ้น หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาไฟป่าลุกลามอย่างหนัก ซึ่งพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นหน้าผาหิน ที่มีความสูงชัน อีกทั้งยังเป็นป่าไผ่ ทำให้ไฟไม้ลุกลามรุนแรง ยากต่อการควบคุม โดยตลอดตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งชุดปฏิบัติการเหยี่ยวไฟ เจ้าหน้าที่เสือไฟ ทหารกรมรบพิเศษที่ 5 และกองพันพัฒนาที่ 3 ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครดับไฟป่า รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ กว่า 200 นาย ระดมกำลังเข้าร่วมดับไฟป่าในพื้นที่บ้านศาลา และบ้านป่ากล้วย ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง

ด้าน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ บินโปรยน้ำในจุดที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แหล่งน้ำที่ห้วยปลากั้ง และอ่างเก็บน้ำแม่สาบ เพื่อช่วยสร้างความชุ่มชื้น ลดอุณหภูมิ ก่อนจะส่งหน่วยดับไฟภาคพื้นดินเดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าที่ยังหลงเหลือ และตรวจสอบจุดเผาไหม้เพื่อดับไฟให้สนิทอีกครั้ง พร้อมทำแนวกันไฟ ป้องกันการปะทุของไฟที่อาจเกิดขึ้นได้อีก

ล่าสุดสถานการณ์สามารถควบคุมได้แล้ว คงเหลือเพียงไฟที่ยังติดตามตอไม้ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นที่เดินเข้าตรวจสอบและลำเลียงน้ำขึ้นไปดับตอต่างๆ ให้สนิท พร้อมกันนี้ยังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย

ด้าน กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA -32 ของ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนในการบินโปรยน้ำดับไฟในพื้นที่บ้านศาลาด้วยอีกทาง โดยเฉพาะบนพื้นที่สูง และหน้าผา ที่หน่วยดับไฟภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าถึง ด้วยศักยภาพของเฮลิคอปเตอร์ KA -32 ซึ่งเป็นอากาศยานที่ออกแบบมาพิเศษ เพื่อใช้ในการดับเพลิงบนอาคารหรือตึกสูง สามารถปล่อยน้ำลงด้านล่างได้ และฉีดพ่นน้ำได้จากระยะไกล ทำให้สถานการณ์ไฟป่าบนหน้าผาสูงคลี่คลายลง

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม