ชาวผับ บาร์ คาราโอเกะ ยื่นหนังสือขอปลดล๊อคคำสั่งปิดสถานบริการ

ชาวผับ บาร์ คาราโอเกะ ยื่นหนังสือขอปลดล๊อคคำสั่งปิดสถานบริการ

ชาวผับ บาร์ คาราโอเกะ ยื่นหนังสือขอปลดล๊อคคำสั่งปิดสถานบริการ
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 07 เมษายน 2564 ผู้ประกอบกิจการสถานบริการ/ เจ้าของ และผู้ที่ได้รับผลกระทบเกือบ 100 คนในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน อันเนื่องมาจากคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ที่ให้ปิดร้านผับ บาร์ คาราโอเกะมานานเกือบ 4 เดือน ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อยื่นข้อร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หรือผู้มีอำนาจในการออกประกาศคำสั่ง ให้ยกเลิกคำสั่งปิดสถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ เพื่อให้ทุกคนทุกอาชีพ สามารถกลับมาทำมาหากินได้ดังเดิม หลังจากที่สถานการณ์โควิด – 19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครได้คลี่คลาย เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรือให้มีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดสถานบริการดังกล่าวข้างต้น
นายวริยา สารวงษ์ อายุ 36 ปี ตัวแทนสถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า จากประกาศคำสั่งปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ยังคงอยู่ควบคู่กับปิดสถานที่เล่นการพนันทุกรูปแบบนั้น ส่งผลทำให้ทุกวันนี้พวกตนเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก เพราะคำสั่งปิดร้านผับ บาร์ คาราโอเกะ เป็นมานานเกือบ 4 เดือนแล้ว นับตั้งแต่สถานการณ์โควิดระบาด ซึ่งที่ผ่านมาพวกตนทุกคน ทุกร้าน ก็ทำตามมาตรการที่ออกมาทั้งหมด แต่เมื่อถึงวันที่สถานการณ์ของโรคคลี่คลาย พวกตนที่ถูกคำสั่งให้ปิดสถานบริการเป็นลำดับแรก แต่กลับยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิดทำมาหากินได้เหมือนกับกิจการอื่น ทุกวันนี้รายได้ก็ไม่มี แต่รายจ่ายยังคงเท่าเดิมทั้งรายจ่ายภายในครอบครัว รายจ่ายส่วนตัว และค่าเช่าร้าน เป็นต้น ลูกน้องก็หนีหายไปหมด ส่วนพวกตนเองก็ไม่รู้จะหันหน้าไปทำอาชีพอะไรใหม่ เพราะทุกอาชีพก็ได้รับผลกระทบจากโควิดพอๆ กันและบางคนก็มีอายุมากแล้วด้วย ดังนั้นจึงต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้มีอำนาจ ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่พวกเราด้วย ซึ่งพวกตนขอยืนยันได้ว่า ร้านคาราโอเกะที่เป็นแหล่งทำมาหากินกันอยู่ในขณะนี้ เป็นเพียงร้านเล็กๆ ริมทาง มีลูกค้าไม่กี่คน ไม่แออัดอย่างผับในกรุงเทพฯ มีการเว้นระยะห่าง และมีมาตรการป้องกันโควิด หากทางจังหวัดฯ อนุญาตให้เปิดได้ ก็เชื่อมั่นได้ว่าจะไม่กลายเป็นพื้นที่การแพร่ระบาดของโควิดอย่างแน่นอน
ด้านนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งได้รับมอบหมายจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครให้ลงมารับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ก็บอกว่า สำหรับผับ บาร์ คาราโอเกะ นั้นยังคงเป็นสถานที่ๆ ต้องปิดกิจการชั่วคราวตามคำสั่งของ ศบค.เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง แม้ว่าจังหวัดสมุทรสาครจะได้รับการลดระดับลงมาให้เป็นพื้นที่สีส้มแล้วก็ตามที ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ได้นำเสนอหลักการและแนวทางการปฏิบัติเพื่อขอเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ไปให้ทาง ศบค.(ใหญ่) พิจารณาแล้ว แต่ทางด้านของ ศบค.บอกว่า จะนำมาพิจารณาหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ไปแล้ว เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยให้มีการรวมตัวกันเป็นจำนวนมากในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ในช่วงของสงกรานต์อาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคนรอการพิจารณาจากทาง ศบค.หลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ไปแล้ว ซึ่งหากช่วงนี้ทุกคนยังคงปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ก็เชื่อได้ว่าหลังสงกรานต์น่าจะมีข่าวดีสำหรับชาวผับ บาร์ คาราโอเกะ แต่ถ้ามีการฝ่าฝืนคำสั่งแม้เพียงแค่ร้านใดร้านหนึ่ง ก็อาจจะยังคงมาตรการเข้มนี้ต่อไปอีก ทั้งนี้หากใครที่ได้รับผลกระทบฯ นั้น ก็ขอให้ลงชื่อร้าน เจ้าของร้าน และจำนวนลูกจ้างในร้านไว้กับทางสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำไปสู่มาตรการเยียวยาช่วยเหลือต่อไป และหากใครที่สามารถปรับเปลี่ยนอาชีพ หรือปรับเปลี่ยนร้านคาราโอเกะ ให้เป็นพื้นที่ค้าขายอย่างอื่นได้ โดยไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นร้านคาราโอเกะ ผับ บาร์ ก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการต่อสู้เพื่อให้ผ่านพ้นไปได้ ในช่วงสถานการณ์โควิดเช่นนี้


ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร

ร้องทุกข์ ร้องเรียน