เด็ก 1 ขวบก็ไม่เว้น ติดโควิคฯจากแม่ทำงานร้านสะดวกซื้อ หญิงชราวัย 86 ปี ก็ไม่พ้น ขณะที่ รพ.ลำพูนเร่งขนย้ายขนไข้ไปโรงพยาบาลสนาม สาขาเวียงยอง
วันนี้ ( 14 เมษายน 2564 ) ตัวเลขการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิค 19 ) ในพื้นที่จังหวัดลำพูนได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้( 14 เม.ย.64 ) รวมทั้งหมด 49 รายแล้ว ส่วนมากจะเป้นกลุ่มหนุ่มสาวนักศึกษา ที่ไปเที่ยวตามสถานบันเทิงในช่วงที่ผ่านมา
โดยตัวเลขของจังหวัดลำพูนนั้น เดือนมกราคม จำนวน 2 ราย ในเดือนเมษายน 64 วันที่่ 9 เมษายน 64 มีผู้ติดเชื้อจำนวน 2 ราย วันที่ 10 เมษายน 64 จำนวน 4 ราย วันที่ 11 เมษายน 64 จำนวน 9 ราย วันที่ 12 เมษายน 64 จำนวน 8 ราย วันที่ 13 เมษายน 64 จำนวน 14 ราย วันที่ 14 เมษายน 64 จำนวน 12 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 49 ราย และคาดว่าในวันที่ 15 เมษายน ุ64 นี้ยอดจะพุ่งขึ้นอีกจำนวนมาก เนื่องจากผลตรวจในกลุ่มผู้เสี่ยงสูง ผลจะออกมา คาดว่าไม่ต่ำกว่า 20 ราย
และที่สำคัญกลุ่มผู้ติดเชื้อนอกจากในกลุ่มหนุ่มสาวนักศึกษา ในกลุ่มนักเที่ยวนักท่องราตรีแล้ว ยังมีการติดเชื้อกระจายไปสู่ผู้สูงอายุ รายงานข่าวล่าสุดผู้หญิงวัย 86 ปี ชาวอำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ก็ติดเชื้อไปแล้ว 1 ราย นอกจากนั้นยังเด็กนักเรียนวัย 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนชื่อดังของจังหวัดลำพูน ก็ได้รับเชื้อจากพี่ชายที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่จังหวัดเชียงใหม่ อีกด้วย และที่น่ากลัวกว่านั้นก็ขณะนี้มีเด็กวัย 1 ขวบ ได้ติดเชื้อโควิค 19 จำนวน 1 ราย โดยติดเชื้อจากแม่ที่ทำงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งเขตอำเภอป่าซาง โดยมีบ้านอยู่เขตตำบลท่าตุ้ม อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ขณะนี้ได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลลำพูน ดดยทำการแยกห้องออกจากกลุ่มผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ เนื่องจากเด็กนั้นมีภูมิต้านทานที่ ต่ำ และก่อนรายงานข่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน (สสจ.) ก็ได้รับการยืนยันว่าเด้ก 1 ขวบติดเชื้อจริงขณะนี้ได้นำตัวผู้ติดเชื้อทั้งแม่และลูก ได้ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลลำพูนแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนทางการแพทย์อาการเด็กและแม่ยังปลอดภัยดี
ส่วนเย็นวันนี้ทางโรงพยาบาลลำพุนได้ทำการย้ายคนไข้ที่ติดเชื้อโควิค 19 ที่รักษาอยู่โรงพยาบาลลำพูน จำนวน 49 ราย ได้แยกออกไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม สาขาเวียงยอง จำนวน 10 รายโดยใช้รถตู้ของโรงพยาบาลจำนวน 1 คันขนคนไข้จำนวน 10 คน โดยแบ่งเป็น 2 เที่ยว