ประธานสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย ประกาศเจตนารมณ์จุดยืนปกป้องเด็กไทยให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ
ดร.วีรบูล เสมาทอง ประธานสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) กล่าวว่า วิชาชีพครู ถือว่าเป็น วิชาชีพชั้นสูง เฉกเช่นวิชาชีพอีก 16 วิชาชีพในปัจจุบัน ที่ได้รับการยกฐานะเป็นวิชาชีพชั้นสูง โดยมีกฎหมายรองรับ ซึ่งมีลักษณะพิเศษ นอกเหนือจากอาชีพโดยทั่วไป เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้รับบริการจากวิชาชีพเหล่านี้ เข้าถึงการบริการที่มีคุณภาพ วิชาชีพครูก็เช่นกัน ดังที่ศาสตราจารย์วิจิตร ศรีสอ้าน ได้สรุปคุณลักษณะวิชาชีพเพื่อเป็นเกณฑ์พิจารณาวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงไว้ 6 ประการ 1.วิชาชีพชั้นสูงจะต้องมีการบริการที่ให้แก่สังคมที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงและจำเป็น อาชีพครู ใช้กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมทางปัญญาการออกแบบวิธีการถ่ายทอดความรู้วัฒนธรรมทักษะและความรู้ให้กับเยาวชนครูต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ แห่งวิชาชีพอันเป็นวิชาการเฉพาะด้านละต้องใช้สติปัญญาในการถ่ายทอดความรู้แต่ละสิ่งละอย่างให้กับศิษย์ 2.สมาชิกของวิชาชีพชั้นสูงจะต้องใช้วิธีการแห่งปัญญาในการให้บริการ อาชีพครูเป็นอาชีพที่ให้บริการแก่สังคมในด้านการถ่ายทอดทักษะทางสังคมค่านิยมตลอดจนวิชาการต่างๆ ให้แก่สังคมตามที่สังคมพึงประสงค์เป็นการให้บริการที่เฉพาะสาขาวิชาที่ต่างจากวิชาชีพอื่น 3.สมาชิกของวิชาชีพชั้นสูงจะต้องได้รับการอบรมให้มีความรู้กว้างขวาง ลึกซึ้งโดยใช้ระยะเวลานานพอสมควร อาชีพครูก็ต้องใช้เวลาเล่าเรียนและฝึกฝนในสถาบันสถานศึกษาและต้องใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๔ ปีจึงจะสำเร็จการศึกษาออกไปทำการสอนได้ 4.สมาชิกของวิชาชีพชั้นสูงจะต้องมีเสรีภาพในการใช้วิชาชีพตามมาตรฐานของวิชาชีพ ในการประกอบวิชาชีพครูนั้นผู้ประกอบวิชาชีพมีเอกสิทธ์ในการตกลงใจและตัดสินใจที่จะใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาการสอนแต่ละครั้งแต่ละวิชา ครูย่อมมีเอกสิทธิ์ ที่จะกำหนดวิธีการสอนและกิจกรรมการสอนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่กำหนดในหลักสูตร 5.วิชาชีพชั้นสูงจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมีจรรยาบรรณวิชาชีพ และ 6.วิชาชีพชั้นสูงจะต้องมีสถาบันวิชาชีพหรือสภาวิชาชีพเป็นแหล่งกลางในการสร้างสรรค์ จรรโลงมาตรฐานของวิชาชีพ คุรุสภาจึงเป็นสภาวิชาชีพครู
ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่าวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องรองรับถึง 3 ฉบับดังนี้
1.พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ ๒๕๔๕) มาตรา๔ บัญญัติไว้ว่า ครู คือ บุคลากรวิชาชีพ ซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
2.พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๖มาตรา ๔บัญญัติว่า ครูคือ บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้นการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐานและอุดมศึกษา ที่ต่ำกว่าปริญญา ทั้งของรัฐและเอกชน และมาตรา ๗. ให้มีสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกว่า “คุรุสภา” มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ มีฐานะเป็นนิติบุคคล ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ มาตรา ๙. คุรุสภามีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
(2) ควบคุมความประพฤติและการดำเนินงาน ของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นไป ตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
(3) ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
(4) พักการใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต ฯ
3.พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพ.ศ.2547มาตรา4กล่าวว่า“ข้าราชการครู”หมายความ
ว่า ผู้ที่ประกอบวิชาชีพซึ่งทาหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาของรัฐ “วิชาชีพ” หมายความว่า วิชาชีพครู วิชาชีพบริหารการศึกษา และวิชาชีพบุคลากรทางการศึกษาอื่น
ประธานสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึงสามฉบับ ดังที่กล่าวมานี้ ไม่ว่าใครจะบิดเบือนหรือกล่าวร้ายว่า วิชาชีพครูไม่ได้เป็นวิชาชีพชั้นสูง จึงขัดกับหลักกฎหมาย หรือใครก็ตามที่พยายามจะกระทำการใดๆ ที่จะทำให้วิชาชีพครูไม่เป็นวิชาชีพชั้นสูงอีกต่อไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นใบรับรองประกอบวิชาชีพครู ถือว่ามีเจตนาร้ายต่อการศึกษาของชาติ เป็นการทำร้ายเด็กไทยอย่างเลือดเย็นที่สุด ที่ต้องขาดหลักประกันการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ จากผู้ประกอบวิชาชีพครู ดังนั้น สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรหลักของผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ จึงขอประกาศเจตนารมณ์และจุดยืนที่จะปกป้องเด็กไทยให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพจากวิชาชีพครูให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดๆก็ตาม ที่จะอยู่เคียงข้างเด็กไทย และผลประโยชน์ด้านการศึกษาของประเทศชาติ และประชาชนสืบไป
************
ข่าว/ภาพ…… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ