“ทวี สอดส่อง” เลขาธิการพรรคประชาชาติให้กำลังใจครอบครัว “มาหามะรอปี เจ๊ะแว” หลังสูญเสียจากโควิด

“ทวี สอดส่อง” เลขาธิการพรรคประชาชาติให้กำลังใจครอบครัว “มาหามะรอปี เจ๊ะแว” หลังสูญเสียจากโควิด

“ทวี สอดส่อง” เลขาธิการพรรคประชาชาติให้กำลังใจครอบครัว “มาหามะรอปี เจ๊ะแว” หลังสูญเสียจากโควิด

วันอาทิตย์ 14 พฤศจิกายน 2564 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ พร้อมทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาชาติ ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย นาย กูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 นาย กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 นาย ซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา เขต 2 และนาย อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ เดินทางไปบ้านยูโย ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเยี่ยมนาง นุรไอนีร์ เจะแว ภรรยานาย มาหามะรอปี เจ๊ะแว หรือ เปาซี ยูโย อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส, อดีตสมาชิกสภาจังหวัดนราธิวาสหลายสมัย และอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นราธิวาส เขต 1 พรรคประชาชาติ ซึ่งเสียชีวิตจากโควิด-19 เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

“เปาซี ถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่ เนื่องจาก เป็นสมาชิกสภาจังหวัดนราธิวาสต่อเนื่องเป็นเวลาสิบกว่าปี ได้สร้างคุณูปการในพื้นที่มากมาย ตลอดจน เป็นที่รักของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตากใบและ อำเภอใกล้เคียงในจังหวัดนราธิวาส”

“บ้านยูโย เป็นพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจของพรรคประชาชาติ เพราะพื้นที่แรกๆ ที่ พี่น้องประชาชนร่วมแรงและร่วมใจกันก่อการเพื่อสร้างพรรคประชาชาติให้เป็นปึกแผ่นในจังหวัดนราธิวาสและการเสียชีวิตของ ‘เปาซี’ ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของพรรคประชาชาติ”

” ตากใบ เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญและเหตุการณ์ที่ตากใบเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันรอมฎอน ยังคงอยู่ในความทรงจำ เป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น”

” มีข้อยุติตามกระบวนการยุติธรรม แต่ข้อยุติและการกระบวนการเยียวยาไม่สามารถเรียกคืนชีวิตและความรู้สึกที่ดีๆ คืนมาได้ บาดแผลและความรู้สึกยังไม่ได้รับการเยียวยา เงินจำนวน 600 ล้านบาทเทียบไม่ได้กับการสูญเสีย พ่อและแม่ย่อมเลือกชีวิตของลูก ภรรยาย่อมเลือกชีวิตของสามีกลับมา”

“เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่ต้องทำปัจจุบันให้ดี วิธีการที่ดีที่สุด คือ การเยียวยาจิตใจ สร้างความเป็นธรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ”

“ตากใบ ต้องได้รับการพัฒนาและเปลี่ยนตากใบให้เป็น’พื้นที่ต้นแบบ’ ในการแก้ปัญหาและป้องกันมิให้สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก”

” พรรคประชาชาติ ติดตามและพยามยามแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ โดยในเบื้องต้นได้มีการเสนอ (ร่าง) ‘พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย’ และมั่นใจอย่างยิ่งว่า พระราชบัญญัติ ฉบับนี้ จะอุดช่องโหว่และป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจจนเกินเลย เข้าข่าย หรือ เกี่ยวข้องกับการทรมาน โหดร้าย หรือ ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ฯลฯ ลอยนวล พ้นผิดจากการกระทำที่เกินกว่าเหตุ”

นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้เชิญชวนให้ชาวตากใบ ใช้ ‘การเมือง’ แก้ปัญหาและสร้างโอกาสพี่ตนเองโดยใช้ ‘พรรคประชาชาติ’ เป็นคนไทยหรือ เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน หรือ ทำงานเพื่อประชาชนเพราะ พรรคประชาชาติ เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของคนที่มีอุดมการณ์ เป็นพรรคที่เริ่มต้นจากการระดมความคิดของผู้กล้า

“การได้ทำงานไม่มีอะไรล้มเหลว ความล้มเหลว คือ การที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เราต้องใช้อดีตเป็นบนเรียน ทำให้ศาสนาและภาษาไม่มีพรมแดน ต้องตื่นรู้ ตลอดจน ต้องเลือกคนที่ใช่ไปเป็นกระบอกเสียงแทนเรา”

“พรรคประชาชาติ พร้อมที่จะเป็นรัฐบาล พร้อมทั้ง ได้คิดวิธีการ หรือ กระบวนการในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนไว้ครบถ้วนแล้วและจะทำทันที หากได้เป็นรัฐบาล”

“พรรคประชาชาติ เป็นพรรคของทุกคนและขอเชิญชวนคนตากใบให้ช่วยกันคัดกรอง พร้อมทั้ง ส่งตัวแทนลูกหลานชาวตากใบ สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคประชาชาติและร่วมกันเป็นเจ้าของพรรค” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ปรารภและตั้งประเด็นทิ้งท้ายไว้

การเมือง