ศูนย์อนามัยที่ ๑๐ อุบลราชธานี ประกาศนโยบายกรมอนามัยให้วัดไพรพัฒนาเป็นวัดต้นแบบCOVID free Setting
เมื่อวันที่ 16 เดือนพฤศจิกายน 2564 ที่วัดไพรพัฒนา ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ) เป็นประธานฝ่าบสงฆ์ และนายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ ๑๐ อุบลราชธานี กรมอนามัย เป็นประธานในพิธีประกาศนโยบายกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขตามมาตรการ COVID Free Setting สำหรับศาสนสถานในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 10 และถวายป้าย COVID Free Setting แด่พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) โดยมี นางวนิดา สมภูงา รองสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และนางสุวรรณา วรรณศรี นายอำเภอภูสิงห์ คณะกรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าหน้าที่ศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี กรมอนามัยและเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมให้การต้อนรับและร่วมในพิธ๊ในครั้งนี้
นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี กล่าวว่า ตามนโยบายการเป็นประเทศของรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณ์สุข ได้ให้ข้อแนะนำ ประชาชนและสถานประกอบกิจการในการดำเนินการตามมาตรการ UP (Universal Prevention) และ COVID free Setting ควบคู่ไปกับการเปิดประเทศ เพื่อเป็นการยกระดับการป้องกันโควิด-19 ต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อชับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้น ๔ มาตรการหลักสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ และประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่ดังนี้ การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมได้ตามเป้าหมาย การป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาและกิจการกิจกรรมเข้มมาตรการ COVID Free Setting การตรวจหาเชื้อเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK
นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ กล่าวต่อไปว่า จากผลสำรวจ อนามัยโพล ระหว่างวันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2564 รายงานว่า ประชาชนในพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัดท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ได้น้อยที่สุด ในเรื่องสวมหน้ากากเมื่ออยู่กับผู้อื่นในบ้าน โดยพบเพียงร้อยละ53.4 ซึ่งเป็นความเสี่ยง ในการติดและแพร่เชื้อของโควิด-19 ดังนั้น จึงเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังตน และปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ให้ตระหนักว่า เราทุกคนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ทุกที่ ทุกเวลา และเข้มงวดกับพฤติกรรมของตนเอง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 สำหรับการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ของสถานประกอบการในพื้นที่ ๑๙ จังหวัดท่องเที่ยว พบว่า ผ่านการประเมินจำนวน 3,068 แห่ง จากที่ลงทะเบียนทั้งหมด 3,192 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 96 โดยพบว่า สถานประกอบการที่เข้ารับการประเมินมากที่สุด คือ ร้านอาหาร สปา นวดเพื่อสุขภาพ และห้างสรรพสินค้าตามลำดับ ซึ่งพบว่ามาตรการที่ไม่ผ่าน ได้แก่ การฉีดวัคซีนของพนักงาน การจัดอุปกรณ์ป้องกันโรคไม่เพียงพอ เช่น เจลแอลกอฮอล์ การแยกสำรับของศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้า การควบคุมกำกับติดตาม การคัดกรองความเสี่ยงและระบบกรองอากาศ ส่วนสถานประกอบการที่ยังไม่ได้ประเมินตามมาตรการ COVID Free Setting สามารถประเมินตนเองได้ผ่านช่องทางเว็บไชต์ stopcovid.anamai.moph.go.th และสถานประกอบการที่ประเมินผ่าน สามารถพิมพ์ใบรับรองผล เพื่อติดไว้หน้าสถานประกอบการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ได้แก่ ใบรับรอง Thai Stop COVID Plus (TSC+) ซึ่งสถานประกอบการทุกแห่งในทุกจังหวัด ต้องประเมินตนเองตามมาตรการ TSG+ ใบรับรอง COVID Free Setting (CFS หรือ TSC๒+) เฉพาะจังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวรองรับการเปิดประเทศหรือจังหวัดที่จะนำเอามาตรการไปปรับใช้ โดยให้สถานประกอบการเลือกประเมินCOVID Free Setting ซึ่งควรผ่านการประเมิน TSC+ เพื่อสามารถประเมิน COVID Free Setting ต่อไป สำหรับช่องทางภาคประชาชนเพื่อประเมินสถานประกอบการ สามารถดำเนินการใน ๓ ช่องทาง คือช่องทางที่ ๑ สแกน QR Code ใน E-Certificate ของสถานประกอบการที่ไปใช้บริการ ช่องทางที่ ๒ ประเมินผ่านทางเว็บไซต์ Thai Stop COVID Plus ของกรมอนามัย และช่องทางที่ ๓ ประเมินผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ผู้พิทักษ์อนามัย COVID watch” ทั้งนี้ กรมอนามัยคงเน้นย้ำให้ทุกคนการ์ดไม่ตก ปฏิบัติตามมาตรการ UP (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งร่วมเป็นหู เป็นตา โดยประเมิน แนะนำติชม และร้องเรียนสถานประกอบการ ให้ปฏิบัติได้ตามมาตรการ COVID Free Settingได้ตามช่องทางที่กำหนด เพื่อให้ เปิดประเทศครั้งนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตและท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยต่อไป
*************
ข่าว/ภาพ…… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ