กก.1 บก.สส.ภ.9 การจับกุมผู้ต้องหารับจำนำรถยนต์เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.อนุรุธ อิ่มอาบ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงค์ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล พ.ต.อ.จักราวุธ บุญเรือง รอง ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.พัชรวิศว์ ปวีรดิษย์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.9 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วันกิตติ ทินนิมิตร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.9 พ.ต.ท.อำนวยชัย เอี่ยมสอาด สว.สส.1 บก.สส.ภ.9 ร.ต.อ.อรรถพล จันทสงค์ ร.ต.อ.ประเสริฐ ทองพรหม ร.ต.อ.นิรัต อ่องแก้ว รอง สว.สส.1 บก.สส.ภ.9 กับพวก สืบสวนจับกุมผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จนสืบทราบว่า ที่บ้านเลขที่ 32 ม.4 ซอยประชาร่วมใจ 1 ถ.ขวัญประชา ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีนายอรุณ ขุนอักษร อายุ 43 ปี ชาว ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเขยที่บ้านหลังดังกล่าว รับจำนำรถยนต์โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือคิดเป็นร้อยละ 120 ต่อปี (เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 15 ต่อปี) สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อนายอรุณฯ รับจำนำรถมาได้ก็จะนำมาฝากไว้กับแม่ยายที่บ้านหลังดังกล่าว ใกล้เคียงกันนายอรุณได้ก่อสร้างโกดังเป็นรั้วสังกะสีปิดทึบเพื่อใช้เก็บรักษารถยนต์ที่ตนเองรับจำนำมา และบางส่วนได้ฝากจอดให้เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันดูแลรักษา ทุกคันถูกนำถุงพลาสติดสีดำมาปิดอำพรางแผ่นป้ายทะเบียนไว้ ต้องสงสัยว่าจะเป็นรถยนต์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดทั้งสิ้น กว่า 30 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสงขลา เพื่อทำการตรวจค้นเป้าหมาย 3 เป้าหมาย ประกอบด้วยบ้านพักแม่ยายนายอรุณ โกดังเก็บรถยนต์ และบ้านพักของนายอรุณ จนวันที่ 9 เม.ย.65 เวลา 09.00 น. ได้ระดมกำลังทำการตรวจค้นเป้าหมายผลการตรวจค้นพบ รถยนต์กระบะ และรถยนต์เก๋ง จำนวน 28 คัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ติดสัญญาเช่าซื้อ กับบริษัทสินเชื่อ อีกทั้งยังพบเอกสารการกู้ยืมเงินโดยมีรถยนต์เป็นหลักทรัพย์คำประกันเงินกู้ (ชุดโอนลอย) จำนวน 32 ชุด สอบถามนายอรุณฯ ให้การรับสารภาพว่าตนเองประกอบธุรกิจรับจำนำรถมาได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้ขออนุญาตจากนายทะเบียน รถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้เป็นรถที่ตนเองรับจำนำไว้จริง ซึ่งได้ทำสัญญากู้ยืมเงินไว้กับลูกค้า และคิดดอกเบี้ยจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบนำตัวนายอรุณฯ พร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
กก.สส.1 บก.สส.ภ.9 จึงฝากเตือนท่านผู้ที่นำรถยนต์ที่ตนกำลังผ่อนหรือเช่าซื้ออยู่ไปจำนำ อาจเข้าข่ายมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวรถคือ สถาบันการเงินเจ้าของสินเชื่อ หรือไฟแนนซ์ ทำให้ท่านเป็นเพียงผู้ครอบครองเพื่อใช้สอยประโยชน์จากรถเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง ซึ่งท่านจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงก็ต่อเมื่อชำระเงินครบตามสัญญาเช่าซื้อแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ปัญหาของการจำนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ ก็คือ หากท่านไปเจอผู้รับจำนำที่ไม่มีความซื่อสัตย์ หรือมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาหลอกลวงเพื่อเอารถของท่านไปขายต่อตั้งแต่แรก อาจขายในรูปแบบรถหลุดจำนำ แยกชิ้นส่วนขาย หรือส่งรถทั้งคันออกนอกประเทศ ท้ายที่สุดสถาบันการเงินเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะมาไล่เบี้ยค่าเสียหายกับท่านโดยตรง ทำให้ท่านยังคงต้องผ่อนรถต่อไปทั้งที่ รถไม่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเอารถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ไปจำนำ หรือ ขาย นอกระบบ เพราะนอกจากที่ท่านจะเสียรถไปแล้ว ยังอาจต้องตกเป็นผู้ต้องหาด้วย
