ศอ.บต. ร่วมละศีลอด เยาวชน จชต. ด้านเลขาฯ ศอ.บต. เผย เตรียมบินไปซาอุฯ 15 พ.ค. นี้ เพื่อหารือ ส่งแรงงานไทย ชุดแรก
วันนี้ (23 เมษายน 2565) สถาบันพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน จัดกิจกรรมรอมฎอน เยาวชนสัมพันธ์ ประจำปี 2565 ณ โรงแรมเซาท์เทอร์น แอร์พอร์ท ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดร.อะหมัด อิสัน ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพัทลุงและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. กรมประชาสัมพันธ์ นายคอเล็ต เจ๊ะแว ผู้อำนวยการกลุ่มงานศาสนาและพหุวัฒนธรรม ศอ.บต. พร้อมด้วยเยาวชนจาก สถาบันพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน ร่วมละศีลอด พร้อมกันในเวลา 18.27 น. ซึ่งเป็นเยาวชนที่ร่วมกันดำเนินกิจกรรมกับสถาบันฯ ในเครือ สภายุวชน สำนักงานประเทศไทย จาก 10 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ตรัง พัทลุง ชุมพร พิษณุโลก พังงา และ 5 จชต. ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต.ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและวันสำคัญของทุกศาสนาในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสร้างสังคมสันติสุข ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจในสังคมพหุวัฒนธรรม สำหรับเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่มีความศักดิ์สิทธิ์นั้น ได้พยายามที่จะเดินทางร่วมละศีลอดกับพี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามเกือบทุกวัน ซึ่งเข้าใจว่า เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการขัดเกลา การอดทน อดกลั้น และสร้างสิ่งที่ดีงาม ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน สิ่งใดที่สามารถทำได้ก็จะรีบดำเนินการทันที อย่างไรก็ตาม ศอ.บต. ได้มอบอินทผาลัม แก่ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ทั้ง 5 จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ภายในต้นเดือนของการเริ่มถือศีลอด พร้อมมอบให้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำ เพื่อนำไปให้นักโทษได้รับประทานในเรือนจำอีกด้วย
เลขาธิการ ศอ.บต. ยังกล่าวถึงกิจกรรมที่ ศอ.บต. เร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ว่า ศอ.บต. ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จชต. ภายใต้ความสัมพันธ์ที่ถูกยกระดับขึ้นของประเทศไทยและประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวถูกส่งต่อไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ก็มีกำหนดเดินทางร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง เพื่อขับเคลื่อนข้อเสนอดังกล่าว พร้อมกับหารือส่งแรงงานไทยไปทำงาน ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยเป็นการหารือในการเพิ่มทักษะของประชาชนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสอดรับกับความต้องการแรงงานในประเทศซาอุฯ โดยคาดว่า ภายในอีก 2 เดือนข้างหน้าก็จะมีการส่งแรงงานในพื้นที่ จชต.ชุดแรกไปทำงาน ภายใต้การส่งเสริมของรัฐบาล