ความเป็นธรรมไม่มีอยู่จริง “เขียว เทพฉิม” อ้างถูกบุกรุกที่ดิน ด้วยการใช้”ระวาง” ทับซ้อน เรียกร้องความเป็นธรรมมา 10 กว่าปี

ความเป็นธรรมไม่มีอยู่จริง “เขียว เทพฉิม” อ้างถูกบุกรุกที่ดิน ด้วยการใช้”ระวาง” ทับซ้อน เรียกร้องความเป็นธรรมมา 10 กว่าปี

ความเป็นธรรมไม่มีอยู่จริง “เขียว เทพฉิม” อ้างถูกบุกรุกที่ดิน ด้วยการใช้”ระวาง” ทับซ้อน เรียกร้องความเป็นธรรมมา 10 กว่าปี หมดเงินแทบหมดตัว แต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม เตรียมเดินทางไปหน้าทำเนียบ เพื่อร้องกับ”บิ๊กตู่”
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20
ต.ค. นายเขียว เทพฉิม อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 8 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล ได้นำเอกสาร การร้องทุกข์ถึง หน่วยงานต่างๆ เป็นจำนวนมาก เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจากผู้สื่อข่าว โดยว่าว่าตน มีที่ดินที่ได้รับมรดกจากผู้เป็นบิดา ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล จำนวน 39 ไร่ โดยที่ดินแปลงดังกล่าว ตนเคยนำไป จดจำนอง กับธนาคารเกษตรและสหกรณ์มาแล้ว ต่อมา เจ้าพนักงานที่ดิน ได้มีการเพิกถอนที่ดินของตน โดยอ้างว่ามีการออกเอกสารสิทธิทับซ้อนกับของผู้อื่น และหลังจากนั้น มีการนำที่ดินของตนไปออกเอกสารสิทธิ์ให้กับบุคคลอื่น ซึ่งตนได้เข้าทำการแจ้งความ ในข้อหาบุกรุก และร้องเรียนกับ สำนักงานที่ดิน หน่วยงานยุติธรรม และอีกหลายหน่วยงาน แต่ไม่เป็นผล
โดยล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ตนได้ร้องเรียนให้ เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรม จ.สตูล ลงพื้นที่พร้อมเจ้าพนักงานที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจสอบรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าวจากพิกัดดาวเทียม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่รังวัด ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบเขตที่ดินได้ เพราะที่ดินที่ถูกบุกรุก มีการปลูกปาล์มน้ำมันเต็มทั้งพื้นที่ เจ้าหน้าที่รังวัดลงความเห็นว่าไม่มีพื้นที่ว่างและไม่มีส่วนที่ผู้ร้องครอบครองทำประโยชน์อยู่เลย และช่างรังวัดไม่สามารถลงพื้นที่ทำการรังวัดได้ทั้งแปลง เนื่องจากผู้บุกรุกไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ จึงได้แจ้งให้ผู้ร้องใช้สิทธิในทางศาล ต่อไป
นายเขียว กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็น มรดกตกทอด และถูก เจ้าหน้าที่เพิกถอนสิทธิการครอบครองของตน ไปออกให้ผู้อื่นโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งตนมีหลักฐานที่เป็นแผนที่ระวางว่ามีการนำระวางที่ดินจากอีกหมู่หนึ่งมาสวมสิทธิ์และออกเอกสารสิทธิ์ให้กับผู้ที่บุกรุกที่ดินทำกินของตน เมื่อตนไม่สามารถหาความเป็นธรรมจากหน่วยงานในพื้นที่ได้ ตนก็ต้องเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบแผนที่ระวางที่ดิน ที่ถูกนำมาจากหมู่อื่นเพื่อมาทับซ้อนที่ของตนเอง ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ให้ความยุติธรรมกับตน ก็สามารถตรวจสอบพิกัดดาวเทียม ตรวจสอบแผนที่ระวางที่ดินได้ แต่วันนี้พนักงานที่ดินให้ตนไปให้สิทธิ์ทางศาล ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่าย ต้องจ้างทนาย ดังนั้นก่อนที่จะไปพิสูจน์สิทธิ์ทางศาล ตนจะไปร้องทุกข์กับ นายกรัฐมนตรี เสียก่อน ถ้าถูกกดดันมากๆ และเห็นว่าความ ยุติธรรม ไม่มีอยู่จริง ตนอาจจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ต้องการทำก็ได้ นายเขียว กล่าวท้ายสุด

ร้องทุกข์ ร้องเรียน