ทนายอ้วนนำเด็กวัย 19 ปี บุกโรงพักเมืองเพชรบูรณ์ แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนรุมโทรมกลางดึก

ทนายอ้วนนำเด็กวัย 19 ปี บุกโรงพักเมืองเพชรบูรณ์ แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนรุมโทรมกลางดึก

ทนายอ้วนนำเด็กวัย 19 ปี บุกโรงพักเมืองเพชรบูรณ์ แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนรุมโทรมกลางดึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 นายสิทธิชัย ต๊ะอาจ (ทนายอ้วน) ทนายความประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการร้องเรียนจากมารดาของนางสาวติ๋ม (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย ถูกนางสาวจัน (นามสมมุติ) เพื่อนผู้เสียหาย ลวงเธอไปให้กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มตลาดโพธิ์จันทร์เพชรบูรณ์” จำนวนนับสิบคนรุมโทรมล่วงละเมิดทางเพศในบ้านเช่า 2 ชั้นที่คลองศาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ทนายความ จึงได้พานางสาวติ๋ม (นามสมมุติ) วัย 19 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.วิริยะ กิ่งแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ทันที ขณะที่ครอบครัวผู้เสียหายทราบมาว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้มี “เสี่ย อ” ผู้มีอิทธิพลคอยให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณวันที่ 10 กันยายน 2567 นางสาวติ๋ม (นามสมมุติ) วัย 19 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่าเดิมเธออยู่ที่เพชรบูรณ์ได้ไปทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร และได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครมาเที่ยวเพชรบูรณ์ เดือนละ 1 ครั้ง เธอกับเพื่อนๆ หญิงหลายคน จึงชักชวนกันไปเที่ยวผับโรงแรมบูรพา และมีกลุ่มวัยรุ่นพวกนี้ ตั้งกลุ่มและเรียกตัวเองว่า “กลุ่มตลาดโพธิ์จันทร์เพชรบูรณ์” นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เมื่อผับเลิกเธอได้เดินทางกลับและไปเปิดห้องพักนอนที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งกลางเมืองเพชรบูรณ์ ต่อมาเวลาประมาณตีสามของวันที่ 10 กันยายน 2567 ได้มีเพื่อนผู้หญิงชื่อนางสาวจัน (นามสมมุติ) เพื่อนกลุ่มเดียวกันโทรศัพท์เข้ามาบอกว่ามีเพื่อนรออยู่บ้านเช่าของกลุ่มวัยรุ่นที่เช่าเอาไว้ที่คลองศาลา เดี๋ยวจะให้ผู้ชายชื่อนาย น เข้าไปรับ จากนั้นนาย น ก็เข้าไปรับและได้พานางสาวติ๋มมาที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบเพื่อนตามที่เพื่อนหญิงโทรบอกแต่อย่างใด จากนั้นเธอได้บอกนาย น ให้ขับรถไปส่งห้องพักที่เธอเช่าไว้ แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นช่วยกันจับตัวเธอเอาไว้และได้นำผงสีขาวมายัดใส่จมูกใส่ปากของเธอเอาไว้ แต่เธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กลุ่มวัยรุ่นจึงได้ผลัดกันกระทำชำเราอย่างป่าเถื่อนซึ่งเธอจำใบหน้าวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ทุกคน


นอกจากนั้นพวกกลุ่มวัยรุ่นยังได้ใช้ไฟโทรศัพท์ส่องที่ใบหน้าของเธอตลอดเวลาเหมือนเป็นการถ่ายคลิปวีดีโอไว้ จนกระทั่งมีนาย ม มาเรียกเธอให้กลับบ้านไป จากนั้นนาย ม ก็ได้เดินลงจากบ้านเช่าหลังดังกล่าวแล้วขับรถออกไปโดยไม่ไปส่งเธอ เธอจึงให้กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 2 คนขับรถพากลับไปที่ห้องพักที่รีสอร์ทเช่าเอาไว้ พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเธอก็ไม่ได้บอกและไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ใครฟังเพราะกลัวอับอาย และเธอก็ได้เดินทางไปขึ้นรถที่ บ.ข.ส.สระกลางเมืองกลับกรุงเทมหานคร ต่อมากลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุได้มีการส่งข้อความมาทาง Messenger โทรศัพท์ของเธอว่าเรื่องนี้มีการอัดคลิปขณะที่เธอถูกรุมโทรมล่วงละเมิดทางเพศเอาไว้ และขู่ว่าจะปล่อยคลิปดังกล่าว เธอจึงได้ตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้มารดาของเธอฟัง


และมารดาจึงได้พานางสาวติ๋ม (นามสมมุติ) บุตรสาวไปพบกับทนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ทนายคลายทุกข์ เพื่อปรึกษาหารือและไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นตลาดโพธิ์จันทร์เพชรบูรณ์ดังกล่าว เพราะกรณีนี้มันเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนที่สุด หลังจากที่มีการแจ้งความไม่ทันข้ามคืน ผู้เสียหายก็ถูกข่มขู่ ในเวลาต่อมาได้มีเด็กผู้หญิงอีก 1 คน ที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกันติดต่อเข้ามา แต่ก็มีเสียงหลุดออกมาจาก จนท.บางคนบอกว่า เรื่องนี้ทำอะไรลำบาก เพราะกลุ่มผู้กระทำผิดเป็นคนของ “เสี่ย อ” ผู้มีอิทธิพลคอยให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ข่าวคืบหน้านำมาเสนอให้ทราบต่อไป

 

ศุภเดช คำพุฒ / สมชาย คำพุฒ ผู้สื่อข่าวภูฒิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม