“อลงกรณ์”ควง”อภิรักษ์”ผนึกความร่วมมือสถาบันอาหารกระทรวงอุตสาหกรรมดันส่งออกอาหารเพิ่มในยุคโควิด19ภายใต้นโยบายรัฐมนตรี”เฉลิมชัย ศรีอ่อน”สู่ท็อปเทนของโลก
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่ากทม. นายทินกร อ่อนประทุมและนายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.ร่วมงาน Sharing Together ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 (25พ.ย.2563)ของสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ณ สถาบันอาหาร กรุงเทพฯ ร่วมด้วยนายสุรพล ชามาตย์ และนายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายปวัตร์ นวะมะรัตน รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีนายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธานกรรมการสถาบันอาหาร นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ผู้ประกอบการด้านอาหาร ให้การต้อนรับซึ่ง
ภายในงานมีการบรรยายแนวคิด Sharing together กิจกรรมสัมนาเสวนา แลกเปลี่ยนความรู้ อนาคตของอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อตอบสนองศักยภาพของไทยในการส่งออกอาหาร
ผอ.สถาบันอาหารกล่าวว่าเป็นการเยี่ยมเยือนร่วมกิจกรรมที่สถาบันอาหารครั้งที่4ในรอบ3เดือนของที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯโดยสถาบันอาหารพร้อมสนับสนุนงานของกระทรวงเกษตรฯ ภายใต้วิกฤติ COVID-19 อุตสาหกรรมอาหาร และนวัตกรรมอาหารของไทยเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศ นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน ปี 2563 ไทยมีมูลค่าส่งออกมูลค่ารวมกว่า 753,000 และคาดการณ์การขยายตัวในสิ้นปีร้อยละ 0.8
นายอลงกรณ์ได้แสดงความยินดีกับสถาบันอาหารในวาระก้าวสู่ปีที่25และกล่าวว่า สถาบันอาหารมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
กระทรวงเกษตรฯจึงมุ่งมั่นร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสถาบันอาหารเพื่อร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการแปรรูปเพิ่มมูลค่า การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์รวมทั้งการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าเกษตรเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนให้กับเกษตรกร สหกรณ์และผู้ประกอบการเกษตรโดยเฉพาะการขับเคลื่อนผ่านศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม77จัวหวัดแบะส่วนราชการ22หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ.ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค
วันนี้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศไทยผู้ส่งออกอาหารอันดับ11ของโลกและอันดับ2ของเอเซียรองจากประเทศจีนเท่านั้น โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะก้าวสู่อันดับท็อปเทนของโลกในฐานะครัวโลกและต้องเป็นครัวที่ปลอดภัยจึงต้องเร่งปฏิรูปภาคเกษตรให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ประเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น และสินค้าเกษตรมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นตามนโยบายของรัฐมนตรีเกษตรฯ.ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน
ทปษ.รัฐมนตรีเกษตรฯยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธานบอร์ดสถาบันอาหารพร้อมยืนยันการทำงานร่วมกันโดยกล่าวในท้ายที่สุดว่า
“อันดับประเทศต้องสูงขึ้นพร้อมกับรายได้ขอบเกษตรกรที่ต้องสูงขึ้นด้วย การกระจายรายได้(distribution of wealth and income )การค้าที่เป็นธรรม(Fair Trade) การขจัดการผูกขาด(anti-trust / monopoly )การสร้างมูลค่าเพิ่ม(value added)ให้กับสินค้าเกษตรโดยแปรรูป การเพิ่มผลิตภาพ(productivity)การอบรมบ่มเพาะวิทยาการใหม่ๆให้เกษตรกร การพัฒนาผู้ประกอบการเกษตร (entrepreneurship development)การขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาหาร(technology & food innovation driven)จึงเป็นวาระและภารกิจสำคัญมากที่เราต้องทำให้บรรลุเป้าหมายมากที่สุด”
พิสิษฐ์ รื่นเกษม รายงาน