ผู้ว่าฯ ยืนยัน จ.อุตรดิตถ์ ปลอดเชื้อโควิด-19 นานกว่า 248 วัน เตือนประชาชนการ์ดอย่าตก ไม่ตระหนก ห่างไกลโรค

ผู้ว่าฯ ยืนยัน จ.อุตรดิตถ์ ปลอดเชื้อโควิด-19 นานกว่า 248 วัน เตือนประชาชนการ์ดอย่าตก ไม่ตระหนก ห่างไกลโรค

ผู้ว่าฯ ยืนยัน จ.อุตรดิตถ์ ปลอดเชื้อโควิด-19 นานกว่า 248 วัน เตือนประชาชนการ์ดอย่าตก ไม่ตระหนก ห่างไกลโรค

(4 ธ.ค.63) นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่เป็นข้อสงสัยของประชาชนในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องกับการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงในแต่ละเหตุการณ์ พร้อมนี้โดยมี นายศุภมิตร ปาณธูป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ ตลอดจน นายพิภัช ประจันเขตต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้แทนหน่วยงาน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมในการชี้แจงแก่สื่อมวลเพื่อขยายผลสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ที่ห้องประชุมสวางคบุรี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่พบมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเป็นระยะเวลา 248 วันแล้ว หลังจากมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 3 คน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ในพื้นที่อำเภอพิชัย ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2563 สำหรับการที่มีข่าวสารตามสื่อต่าง ๆ ที่มีการพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนติดต่อประเทศพม่า และจังหวัดอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น ข้อมูลการพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในจังหวัดที่กล่าวมา จำนวน 10 ราย โดยเป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่จากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เชียงใหม่ จำนวน 3 ราย, เชียงราย จำนวน 3 ราย, พะเยา จำนวน 1 ราย, พิจิตร จำนวน 1 ราย, กรุงเทพฯ จำนวน 1 ราย และ ราชบุรี จำนวน 1 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยช่องทางธรรมชาติจากประเทศพม่า โดยไม่ผ่านการกักตัวตามมาตรการของประเทศไทย ทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยงในหลายพื้นที่

กรณีแรก คือ กรณีที่ผู้โดยสารบนเครื่องบินการเดินทางเที่ยวเดียวกับผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในจังหวัดพิจิตร (เที่ยวบินดอนเมือง-พิษณุโลก)พบประเด็นแยกเป็น 2 กรณี 1) ผู้โดยสารชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ เพศชาย จำนวน 1 คน โดยสารเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยัน เหตุการณ์นี้เป็นความจริง โดยผู้โดยสารรายนี้ จัดเป็น “กลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ” (Low risk) เนื่องจากนั่งโดยสารในบริเวณห่างไกล และไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยยืนยัน ผู้โดยสารรายนี้ ได้รับคำแนะนำการปฏิบัติตัว กักตัว และติดตามอาการที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกันฯ จังหวัดอุตรดิตถ์ และเป็นผู้โดยสารที่ไม่พบอาการป่วยในปัจจุบัน 2) ผู้สัมผัสผู้โดยสารบนเครื่องบินเที่ยวเดียวกับผู้ป่วยยืนยัน โดยพบว่าเป็นผู้โดยสารที่มีอาการป่วยในจังหวัดพิษณุโลก และมีภรรยาเดินทางเข้ามาทำงานในจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีข้อเท็จจริง คือ ผู้โดยสารที่มีอาการป่วย ได้รับการตรวจหาเชื้อฯ“ผลการตรวจไม่พบเชื้อฯ” และกักตัวตามมาตรการในจังหวัดพิษณุโลก ส่วนภรรยาที่เดินทางมาทำงานในจังหวัดอุตรดิตถ์นั้น ถือว่า “ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง”
กรณีที่ 2” เยาวชนกลุ่มหนึ่งในอำเภอท่าปลา เดินทางไปเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเดียวกับผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ (ไม่ได้ไปในจังหวัดเชียงรายตามข่าว) โดยมีข้อเท็จจริง คือ เยาวชนกลุ่มนี้เดินทางไปในจังหวัดเชียงใหม่จริง แต่ไม่ได้เข้าไปสัมผัสสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว กรณีนี้ ถือว่า “ไม่เข้าข่ายผู้มีความเสี่ยงต่อการ” กรณีที่ 3) กรณีมีการรายงานอาการและการพบเชื้อฯ ผู้ป่วยเพศหญิง ในตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล โดยมีข้อเท็จจริง คือ ผู้ป่วยรายดังกล่าว เดินทางไปในจังหวัดเชียงใหม่จริง แต่ไม่สัมพันธ์กับช่วงที่มีการพบผู้ป่วยยืนยัน รวมถึงไม่สัมพันธ์กับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพบว่ามีอาการป่วยและอาการแสดงในระบบทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลลับแล และมีการส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อประกอบการวินิจฉัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และสร้างความมั่นใจในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ “ผลตรวจไม่พบเชื้อฯ” “และ กรณีที่ 4” พบเยาวชนเพศชาย 1 ราย ไปร่วมงานคอนเสิร์ตในจังหวัดเชียงราย ช่วงเวลาที่พบผู้ป่วยยืนยันในจังหวัดเชียงราย โดยมีข้อเท็จจริง คือ เยาวชนชายรายนี้มีอาการป่วยหลังจากไปร่วมงานคอนเสิร์ตจริง มีการปฏิบัติตัวป้องกันการติดเชื้อฯ อย่างเหมาะสม และแจ้งมายังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขอเข้ารับการตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ โดยมีผลการตรวจหาเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 คือ “ไม่พบเชื้อ” ซึ่งขณะนี้เยาวชนรายดังกล่าว แยกกักตัวตามมาตรการป้องกันฯ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ และมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่องแล้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงขอความร่วมมือประชาชนจังหวัดอุตรดิตถ์ ปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮออล์ หรือน้ำสบู่ทุกบ่อย ๆ รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร เมื่อเข้าไปในที่ชุมชน สแกน Application ไทยชนะ เข้า-ออก ทุกครั้ง เมื่อไปในสถานที่ต่าง ๆ เฝ้าระวังอาการป่วยของตนเอง หากพบอาการไข้ ไอ หวัด หรืออาการผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ และไปในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศของกรมควบคุมโรค หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้ติดต่อปรึกษาที่สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ใกล้บ้าน
ณัฐ​วัฒน์​ ราช​ประสิทธิ์​ ภาพ​/ข่าวอุตรดิตถ์​

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม