ผวจ.กาญจน์ โพสต์เฟซอีกครั้ง หลังอัจฉะริยะ เข้าร้องทุกข์ ปปป.ระบุ เมื่อมีการกล่าวโทษมา ผมเลือกที่จะให้ข้อมูลกับบุคคลที่มีหน้าที่ตรวจสอบเท่านั้น ส่วนภริยาผมไม่ได้มีพฤติการณ์อย่างที่คุณกล่าวหาอย่าเอาผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง
วันนี้ 5 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ม.ค.63 ที่ผ่านมา การที่นายอัจฉะริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐานเข้าพบเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(ปปป) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กับพวกรวมทั้งตำรวจ และผู้สนับสนุนกว่า80คน ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา157 ในการละเว้นปล่อยให้มีการลักลอบขนแรงงานเถื่อน ของหนีภาษี รถเถื่อน จำนวนมาก
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมโดยเฉพาะชาวจังหวัดกาญจนบุรี ต่างจับตาและให้ความสำคัญกับข่าวดังกล่าวเป็นอย่างมาก
โดยล่าวุด คืนที่ผ่านมา (4 ม.ค.64)นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “ Jirakiat Bhumisawasdi ”ว่า…”เมื่อมีการกล่าวโทษมา ผมเลือกที่จะให้ข้อมูลกับบุคคลที่มีหน้าที่ตรวจสอบเท่านั้น หากมีความผิดก็พร้อมที่จะยอมโดนลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาหรืออาจรวมถึงทางแพ่งด้วย การบริภาษคนนั้นคนนี้ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและไม่รู้จริงสามารถสร้างกระแสสำหรับคนที่ไม่รู้รายละเอียดไดแต่ไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองนี้ดีขึ้นหรอกครับ และขอโทษนะครับภริยาผมไม่ได้มีพฤติการณ์อย่างที่คุณกล่าวหาอย่าเอาผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องเลยครับ…..”
ก่อนหน้านี้คือวันที่ 3 ม.ค.64 เวลาประมาณ 10.00 น. นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กมาแล้วครั้งหนึ่งว่า “ตรงไหนอย่างไรครับ อย่านั่งเทียน สักแต่ว่าพูดก็แล้วกัน”
ซึ่งหลังจากที่ผู้ว่าฯ โพสต์เรื่องดังกล่าวไป ได้มีสมาชิกเข้ามาแสดงความเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนให้กำลังและเชื่อมั่นว่าผู้ว่าฯ ไม่ได้กระทำการตามที่ถูกกล่าวหา เชื่อว่าเป็นการสร้างกระแสของอีกฝ่าย และบางรายก็อยากให้ผู้ว่าฯ ฟ้องกลับ เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมทั้งเข้ามาให้กำลังใจผู้ว่าฯ กันเป็นจำนวนมาก
สมาชิกบางราย ได้แคปหน้าจอเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่โพสต์เอาไว้ว่า #ชมรมนี้ตั้งมา 8 ปีๆ นี้เป็นปีที่ 9 ไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพล ของขบวนการขายชาติ ใครค้าแรงงานต่างด้าวเถื่อน ค้ารถเถื่อน ของหนีภาษี แรงงานต่างด้าวเถื่อนซ่อนในโรงงานใน อ.สังขละจำนวนมาก ขณะนี้ผู้ว่ากับเมียไม่ต้องกลัวถ้าบริสิทธิชมรมก็ไม่อยู่เหนือกฎหมาย สู้กันด้วยหลักฐาน ถ้ากล้าฟ้องมาได้เลย จะรอรับหมายศาล ใหญ่กว่าคุณก็เจอมาแล้ว นี้เป็นตัวอย่างเล็กน้อยของจริง มีทั้งขบวนการแล้วเจอกัน “กูไม่กลัวมึง ถ้ามึงรู้เจ้าของชมรมเป็นใคร มึงจะไม่กล้าพูดคำนี้”./
/////////////////////////////////////////
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี