กาญจนบุรี อ.ทองผาภูมิ-เกษตรอำเภอ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรจากภัยช้างป่า

กาญจนบุรี อ.ทองผาภูมิ-เกษตรอำเภอ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรจากภัยช้างป่า

กาญจนบุรี อ.ทองผาภูมิ-เกษตรอำเภอ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรจากภัยช้างป่า พบไม่เข้าหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ เหตุขากการลงทะเบียนเป็นเกษตรกร ส่วนทางอุทยานฯทองผาภูมิ เตือน นทท.ปชช.ขับรถยามค่ำคืนต้องระวังช้างป่าข้ามถนน สาย 323 ระหว่าง กม.192-195 โรงเรียนบ้านจันเดย์-สะพานองธิ

จากกรณีนายสมควร ทองปราณีต อยู่บ้านเลขที่ 55/5 หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า ช้างป่าเป็นจำนวนมากเข้ามาทำลายวัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตรรวมทั้งกินและทำลายพืชไร่เสียหายเป็นจำนวนมาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

จากกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 ม.ค.64 ที่ผ่านมานายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า ปลัดอาวุโสรักษาการนายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มอบหมายให้นายโชคชัย อู่โภคิน ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน ร่วมกับนายกิตติศักดิ์ เอี่ยมระหงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี สาขาทองผาภูมิ นายจิรชัย ถนอมวงษ์ นายกเทศบาลตำบลท่าขนุน นายอานนท์ ถนอมวงษ์ ส.อบจ.อำเภอทองผาภูมิ นายธวัชชัย ชมมิ่ง ปลัดเทศบาลตำบลท่าขนุน นายอภิวันทน์ หยุดยั้ง นักวิชาการส่งเสริมการปฎิบัติการ สนง.เกษตรอำเภอทองผาภูมิ

เดินทางลงพื้นที่เพื่อพบปะชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ นายสมควร ทองประณีต ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ท่าขนุน และนายทวีศักดิ์ ลือกาญจนวนิช เกษตรกร ชาวหมู่ 1 ต.สหกรณ์นิคม นำพาสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกช้างป่ากินและทำลายเมือช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยเกษตรกรทั้งสองรายแจ้งว่าที่ดินมีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนด ส่วนใหญ่เป็นสาวนผลไม้ ประเภทกล้วย ทุเรียน ส้มโอ มะพร้าว มะเขือ ถั่วฝักยาว เป็นต้น สำหรับการลงพื้นที่ของคณะเจ้าหน้าที่ครั้งนี้เป็นเพียงการเข้าไปพบปะพูด ยังไม่ได้สรุปข้อมูลความเสียหายแต่อย่างใด

โดยปัจจุบันช้างป่าได้ขยายพื้นที่ออกไปหากินใน 5 ตำบลของ อ.ทองผาภูมิ ประกบด้วย ต.ห้วยเขย่ง ต.ลิ้นถิ่น ต.ท่าขนุน ต.สหกรณ์นิคม และ ต.หินดาด โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่และจิตอาสาชุดเฝ้าระวังช้างป่าของแต่ละพื้นที่ได้คอยติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ล่าสุด วันนี้ 12 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า ปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอทองผาภูมิ เปิดเผยว่า สำหรับสถิติการให้ความเหลือประชาที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ โดยเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2560 อำเภอทองผาภูมิ ได้รับรายงานความเสียหายจาก สำนักงานเกษตรอำเภอทองผาภูมิว่ามีเกษตรกรที่ประสบภัยจากช้างป่าทำลายทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย จำนวน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1หมู่ 7 และหมู่ 8 ต.ห้วยเขย่ง ผู้ประสบภัยรวมกัน จำนวน 4 ราย พื้นที่เสียหาย จำนวน 8 ไร่ 1 งาน วงเงินที่ได้รับการช่วยเหลือ รวมกัน จำนวน 13,842.50 บาท

แต่เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยหมู่ที่ 7 และ 8 ไม่อยู่ในพื้นที่ตามประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จังหวัดกาญจนบุรี จึงไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินได้

ดังนั้นอำเภอทองผาภูมิ จึงให้องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเขย่ง ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว โดยประสานขอหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 จากสำนักงานเกษตรอำเภอทองผาภูมิ ทั้งหมดได้รับการเยียวยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับกรณีที่คณะเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่การเกษตรของประชาชน หมู่ 1 และ หมู่ 3 ต.ลิ้นถิ่น ที่ถูกช้างป่าเข้าทำลาย เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการหารือในที่ประชุมได้ข้อสรุปคือ ให้ทางอำเภอทองผาภูมิเรียกประชุมรับข้อร้องเรียนจากตำบลที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วสรุปส่งให้จังหวัด และผลการสำรวจพื้นที่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าเข้าทำลาย ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ลิ้นถิ่น และหมู่ 1 ต.สหกรณ์นิคม ซึ่งตัวแทนเกษตรอำเภอทองผาภูมิได้รายงานผลเข้ามาว่า เกษตรกรทั้งสองรายขาดการลงทะเบียนเป็นเกษตรกร และความเสียหายไม่สิ้นเชิง จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด

ส่วนทาง อุทยานฯทองผาภูมิ เตือน นทท.ปชช.ขับรถยามค่ำคืนต้องระวังช้างป่าข้ามถนน สาย 323 ระหว่าง กม.192-195 โรงเรียนบ้านจันเดย์-สะพานองธิ หากพบไฟส่องสว่างต้องชะลอเพราะหมายถึง จนท.และจิตอาสากำลังไล่ช้าง

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจาก นายเจริญ ใจชน หน.อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ว่า สถานการณ์ช้างป่า พื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ระหว่าง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู นำโดยนายวันชัย สูนคำ เป็นหัวหน้าชุด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านจาก หมู่ 2 หมู่ 3 ต.ท่าขนุน รวมทั้งอาสากู้ภัยบ้านจันเดย์ และราษฎรชุดจิตอาสา หมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 3 ได้ร่วมกันปฏิบัติงานคุ้มครองเฝ้าระวัง ติดตามสังเกตการณ์พฤติกรรมช้างป่า มาอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่และราษฎรชุดจิตอาสา ได้เฝ้าติดตามและสังเกตการณ์ช้างป่าบนถนนหมายเลข 323 ระหว่าง กม.192-195 โรงเรียนบ้านจันเดย์-สะพานองธิ ค่าพิกัดที่ 47P 0464324E 1623278 พบช้างป่าประมาณ 30-40 ตัว ข้ามถนนเส้นดังกล่าว มุ่งหน้าหากินบ้านจันเดย์ หมู่ 3 ต.ท่าขนุน คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ผู้ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 323 และราษฎรในพื้นที่ให้ระวังอันตรายจากช้างป่าในบริเวณดังกล่าว และจากการแจ้งประสานจากราษฏรในพื้นที่ทราบว่า ช้างป่าได้ประมาณ 50-60 ตัว หลบพักอยู่บริเวณป่าบ้านจันเดย์ หมู่ 3 ต.ท่าขนุน ค่าพิกัดที่ 47P 0465029E 1624736N โดยแหล่งหลบพักอาศัยของช้างป่านั้นอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

สำหรับอุปสรรคและปัญหา คือการผลักดันช้างป่าทำให้ช้างป่ากระจายแบ่งออกเป็นกลุ่ม ออกหากิน ตามพื้นที่ทำการเกษตรของราษฎร ทำให้พืชผลเกษตรของราษฎรเสียหายมากขึ้น ที่สำคัญช้างป่าเรียนรู้ได้รวดเร็ว และไม่เกรงกลัวต่อวิธีการผลักดันอีกแล้ว บางครั้งจึงทำให้เจ้าหน้าที่และชุดเฝ้าระวังเริ่มอ่อนล้า เนื่องจากเฝ้าระวังติดต่อกันเป็นเวลาหลายคืน อย่างไรก็ตามขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงนักท่องเที่ยวรวมทั้งประชาชนในพื้นที่ที่สัญจรไปมาในช่วงเวลากลางคืน ให้ขับขี่ยวดยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 192-195 โรงเรียนบ้านจันเดย์-สะพานองธิ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีช้างป่าข้ามถนนอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ทำให้มองได้ในระยะใกล้ และหากพบไฟส่องสว่างจากไฟฉาย ขอให้ทราบว่าขางหน้าเจ้าหน้าที่ของเรากำลังต้อนไล่ช้างอยู่ หากไม่ชะลอความเร็วอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
///////////////////////////////////


ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม