เดือดร้อนทายาทครอบครัว “ดำรงค์สกุล” ผู้บุกเบิกพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ขอความเป็นธรรม ถูกชายอ้างเป็นข้าราชการเข้ารุกที่ดินของครอบครัว แถมอ้างเป็นเจ้าของหน้าตาเฉย

เดือดร้อนทายาทครอบครัว “ดำรงค์สกุล” ผู้บุกเบิกพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ขอความเป็นธรรม ถูกชายอ้างเป็นข้าราชการเข้ารุกที่ดินของครอบครัว แถมอ้างเป็นเจ้าของหน้าตาเฉย

กาญจนบุรี เดือดร้อนทายาทครอบครัว “ดำรงค์สกุล” ผู้บุกเบิกพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ขอความเป็นธรรม ถูกชายอ้างเป็นข้าราชการเข้ารุกที่ดินของครอบครัว แถมอ้างเป็นเจ้าของหน้าตาเฉย

วันนี้ 30 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพัชรี ดำรงค์สกุล อายุ 61 ปี ทายาทของ ร้อยเอกอิทธิพล ดำรงสกุล ซึ่งเป็นคนไทยกลุ่มแรกที่เข้าไปอาศัยอยู่และบุกเบิกพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อช่วงปีพุทธศักราช 2515 ได้เข้าร้องเรียนและขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ดินในพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ซึ่งเป็นมรดกจากคุณพ่อ จำนวนกว่า 50 ไร่ ได้ถูกชายคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นข้าราชการหน่วยงานหนึ่งเข้ามาบุกรุกยึดถือครอบครอง แถมยังอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆยืนยัน แถมหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ซึ่งนางพัชรีได้เดินทางเข้าไปร้องเรียนกลับไม่มีการดำเนินการตรวจพิสูจน์หาข้อเท็จจริงใดๆ

นางพัชรี ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ในอดีตพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า ถือเป็นพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ป่า ผู้ที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นชนกลุ่มน้อย กระทั่ง ร้อยเอกอิทธิพล ดำรงค์สกุล คุณพ่อของเธอ ซึ่งในขณะนั้นรับราชการ เป็นทหารหน่วยข่าวกรอง เดินทางเข้าไปทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ถือเป็นคนไทย กลุ่มแรกที่เข้าไปบุกเบิกพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน และได้มีการทำกิน ทั้งการทำเหมืองแร่ ปลูกไม้เบญจพรรณ อยู่ในพื้นที่จำนวนกว่า 50 ไร่ ก่อนจะมอบที่ดินดังกล่าวให้เป็นมรดกกับลูกหลาน โดยมีหลักฐาน เป็นร่องรอยการทำกิน พร้อมด้วยทะเบียนบ้าน และเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า มาอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง เมื่อช่วงปี 2561 ได้ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่ง อ้างตัวว่าเป็นข้าราชการหน่วยหนึ่งได้เข้ามาบุกรุกที่ดิน แปลงที่ร้อยเอกอิทธิพล มอบเป็นมรดกให้กับลูกหลาน โดยได้นำรถแบคโฮเข้ามาตักดินในพื้นที่ และตัดไม้ที่ร้อยเอกอิทธิพล ได้ปลูกเอาไว้จนเกือบหมด แถมชายคนดังกล่าวยังได้อ้างว่าที่ดิน ที่เข้ามาบุกรุกนั้นเป็นที่ดินของตนเอง ทั้งที่ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆมายืนยัน

หลังพบว่ามีการบุกรุกเข้ามา ทางนางพัชรีพร้อมด้วยครอบครัวจึงได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว ขณะนี้ คดีอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องในชั้นศาล กระทั่งรัฐบาล ได้มีโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณบ้านพุน้ำร้อน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีการเวนคืนที่ดิน และจัดสร้างหน่วยงานราชการหลายแห่งในพื้นที่ ส่วนพื้นที่ที่ไม่ได้ถูกเวนคืน ก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่ครอบครองอยู่เก่าได้ยื่นเรื่องขอเช่าพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ นางพัชรีพร้อมด้วยครอบครัวจึงได้ไปยื่นเรื่อง เพื่อขอเช่าพื้นที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงมรดกดังกล่าว โดยมีผู้นำชุมชนในท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า เป็นพยานยืนยันการเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวมาแต่เดิมของครอบครัว

นางพัชรี ยังได้นำเอาเอกสารภาพถ่ายร่องรอยหลักฐานการทำประโยชน์ในพื้นที่ รวมถึงเอกสารทะเบียนบ้าน และใบเสร็จการเสียภาษีบำรุงท้องที่ในที่ดินแปลงดังกล่าวมาเป็นหลักฐานในการยื่นเรื่องขอเช่าที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ แต่ไม่สามารถดำเนินการเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากถูกชายซึ่งอ้างตัวว่าเป็นทหารที่ได้บุกรุกที่ดินแปลงดังกล่าวนี้ ยื่นคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ ถึงแม้ครอบครัวของนางพัชรีจะได้นำพยานบุคคลและพยานหลักฐานต่างๆ เข้าไปชี้แจง แต่เจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ก็ยังยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการให้กับครอบครัวของนางพัชรีใช้สิทธิ์เช่าที่ดินเพื่อทำประโยชน์ได้ ที่ผ่านมา นางพัชรีและครอบครัวพยายามยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า นางพัชรีเกรงว่าที่ดินแปลงดังกล่าวซึ่งเป็นที่ดินมรดกมาจากรุ่นพ่อ จะถูกชายซึ่งอ้างตัวว่าเป็นข้าราชการหน่วยงานหนึ่ง และถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ยึดเอาที่ดินแปลงดังกล่าวไปเป็นของตนเอง จึงได้เข้าร้องเพื่อขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ทั้งนี้นางพัชรีและครอบครัว ยืนยันที่จะเดินหน้าเรียกร้องขอความเป็นธรรมโดยจะเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิ์จะเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อทำประโยชน์./
////////////////////////////////////////////////////


ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

ร้องทุกข์ ร้องเรียน สังคม