วันที่ 29 พ.ย.64
คืบหน้าเหตุ จยย.บอมบ์ พื้นที่ อ.บันนังสตา ตำรวจ ตั้งสองประเด็น ความมั่นคงฯกับการเมือง
วันนี้ 29 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เผยความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบวางระเบิด(จยย.บอมบ์)รถยนต์ขนหีบบัตรเลือกตั้ง อบต.ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยหลังจากที่เมื่อเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจพิสูจย์ หาหลักฐานในที่เกิดเหตุ ริมถนนสายศรีบางลาง(ทางเข้าเขื่อนบางลาง) เลยสะพานกูมัง หมู่ที่ 6 บ้านบือซู ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา
จ.ยะลา ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ทั้งชุดสืบสวนจังหวัด ชุด สืบสวนคดีความมั่นคง และชุดสืบสวนของ สภ.บันนังสตา ได้ลงพื้นที่ติดตามเหตุที่เกิดขึ้น โดยได้ตั้งประเด็นของการก่อเหตุไว้ 2 ประเด็น คือ เหตุความมั่นคง และ เหตุทางการเมืองท้องถิ่น เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบต.ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รับข้อมูล ข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จะก่อเหตุระหว่างช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ติดตามข่าวสารมาโดยตลอด แต่อย่างไร ก็ตาม ยังต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจย์หลักฐาน ทำการตรวจหลักฐานที่ตรวจพบจากที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะสามารถระบุได้ว่า หลักฐานที่พบนั้น มีความคล้ายคลึง หรือ เคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง จึงจะสามารถระบุกลุ่มคนร้ายได้
ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวอีกว่า
สำหรับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุนั้น จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ พบว่า คนร้ายซุกซ่อนระเบิดไว้ในตะกร้าผลไม้ ที่ใช้วางข้างตัวรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นการดัดแปรงของชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ทำเกษตร จะนำเอาตะกล้าผลไม้ขนาด 20 กิโลกรัม ที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ไว้ข้างรถจักรยานยนต์ เพื่อไว้บรรทุกผลผลิตจากสวน คนร้ายจึงได้นำระเบิดแสวงเครื่องขนาดไม่ต่ำกว่า 5 – 10 กิโลกรัม ซึ่งประกอบขึ้นเอง ใช้วิธีการจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารในรัศมีไม่เกิน 300 – 400 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้พบเศษชิ้นส่วนของสะเก็ดระเบิด เป็นชิ้นเหล็ก เหล็กเส้นตัดท่อน และวงจรอิเลคทรอนิค เป็นชิ้นส่วนของวิทยุสื่อสารที่ใช้ในการจุดชนวนระเบิด และพบว่าเป็นลักษณะวิธีการเดียวกับการใช้ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ที่ผ่านมา
ด้านแหล่งข่าวความมั่นคงฯ ได้วิเคราะห์ว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่า กลุ่มขบวนการก่อเหตุความไม่สงบ มีความเชื่อมโยงกับการเมือง หรืออาจจะมีการว่าจ้าง เพื่อให้ก่อเหตุและแอบแฝงสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อย่างไร ก็ตามจะต้องติดตามดูผลการพิสูจย์จากหลักฐานที่พบ ประกอบกับข้อมูลจากชุดสืบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่อีกครั้ง จึงจะสามารถระบุชี้ชัดได้ว่า กลุ่มใดเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/