หนุ่มสตูลทำอาชีพการเกษตรโดนสาวลึกลับอ้างเป็นหน้าหน้าที่เกษตรอำเภอละงู หลอกเอาเงินเกือบแสนบาท ผ่านไลน์ทำลงทุนขี้ไก่อัดเม็ด ร้องสื่อช่วยประกาศระวัง ภัยลงทุนลงเงิน เสี่ยงไม่ได้คืน !!!
………………………………………………………………………………………………….
วันที่17 ธค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการติดต่อสื่อมวลชนในจังหวัดสตูล เพื่อร้องเรียนเรื่อง มีสาวลึกลับทักแชทมา แจ้งบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอละงู และทางอำเภอมีโครงการเข้ามา จนกระทั้งมีการโอนเงินไปให้เกือบหลักแสนบาทเลยทีเดียว
โดยนายอภิวัตร ก้งเซ่ง อายุ43ปี อยู่บ้านเลขที่16/8หมู่ที่1 ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า เล่าด้วยความเสียใจ และ ฝากเตือนภัยผ่านสื่อเรื่อง มีมิจฉาชีพหลอกตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ ทำให้ตนหลงเชื่อโอนเงินทำธุระกิจเกี่ยวกับการเกษตรไปเป็นเงิน70,000บาท
นายอภิวัตร เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่14ธันวาคมที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากปลายสายที่ใช้ชื่อว่า เจ๊หน่อย เจ๊หน่อยอ้างว่า ตนติดตามธุระกิจจำหน่ายเปลือกมะพร้าวสับและวัสดุการเกษตรของนายอภิวัตรผ่านทางเพจสวนมะนาวแม่เขียวของตนเอง
เจ๊หน่อยบอกกับตนว่าเจ๊หน่อยเป็นผู้ผลิตมูลไก่อัดเม็ดรายใหญ่ มีโรงงานตั้งอยู่แถวโคราช จ.นครราชสีมา โดยเจ๊หน่อยอ้างว่า ตนได้งานรับงานจากเกษตรจังหวัดสตูลเรื่องเกษตรอินทรีย์ ต้องการเอาเปลือกมะพร้าวสับ ที่ทางนายอภิวัตรผู้เสียหายผลิตอยู่ มารวมกับมูลไก่อัดเม็ดจากโรงงานของตนเองผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์นำมาให้เกษตรจังหวัดแจกจ่ายให้ชาวบ้าน
ต้องการจะซื่อเปลือกมะพร้าวสับจากตน จำนวน3,700กระสอบ โดยทางตนตกลงขายเปลือกมะพร้าวสับให้กับเจ๊หน่อยในราคากระสอบละ30บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น111,000บาท โดยทางตนแจ้งกับเจ๊หน่อยว่า จะต้องลงมาทำสัญญาและวางมัดจำกันก่อน ทางเจ๊หน่อยก็ตอบตกลงและบอกว่าจะส่งลูกน้องเข้าไปเวลาม่เกินบ่าย2โมงของพรุ่งนี้(วันที่15ธันวาคม)
ต่อมาประมาณ20นาที ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงอีกคน ใช้ชื่อตัวเองว่าน้องอิฟ อ้างว่าเป็นเกษตรอำเภอละงู จ.สตูล เพิ่งย้ายมาใหม่ ต้องการจะสั่งซื้อเปลือกมะพร้าวสับจากตนหลายพันกระสอบ เพื่อนำมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และยังต้องการหาซื้อมูลไก่อัดเม็ดจำนวน1200กระสอบ แต่ยังหามูลไก่ไม่ได้
ทางนายอภิวัตร จึงบอกไปว่า ตนมีเบอร์ติดต่อโรงงานผลิตมูลไก่อัดเม็ด นั้นก็คือเจ๊หน่อยคนที่ติดต่อตนมาก่อนหน้า และได้ให้เบอร์เจ๊หน่อยเจ้าของโรงงานผลิตมูลไก่อัดเม็ดกับน้องอิฟคนที่อ้างเป็นเกษตรอ.ละงูเพื่อติดต่อกันเอง
ประมาณ10นาทีต่อมา น้องอิฟโทรกลับมาหาตนว่า จะสั่งซื้อมูลไก่อัดเม็ดจากเจ๊หน่อยไม่ได้ เพราะบิลที่จะเบิกเงินจากหน่วยงานได้ต้องเป็นบิลทั้งมูลก่กับบิลเปลือกมะพร้าวสับมาจากที่เดียวกัน โดยให้ตนเป็นคนสั่งซื้อมูลไก่อัดเม็ดให้
หลังจากนั้น ตนได้ประสานกลับไปยังเจ๊หน่อยคนที่อ้างว่ามีโรงงานผลิตมูลไก่อัดเม็ดเพื่อที่จะทำการตกลงซื้อขาย โดยให้ตนเป็นคนประสานแล้วกินกำไรกี่เปอร์เซ็นต์
ทางเจ๊หน่อยบอกว่า จะขายมูลไก่อัดเม็ดให้ตนในราคากระสอบละ220บาท ส่วนราคาที่ตกลงขายกับน้องอิฟผู้ที่อ้างเป็นเกษตรอำเภอนั้นตกลงขายกันที่450บาท เมื่อมองเห็นถึงกำไรที่จะเกิดขึ้น ตนจึงตกลงซื้อขายมูลไก่อัดเม็ดกับเจ๊หน่อยจำนวน1200กระสอบในราคากระสอบละ220พร้อมค่าขนส่ง
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น264,000บาท โดยเจ๊หน่อยแจ้งว่า ตนจะต้องโอนเงินมัดจำ50เปอร์เซนให้เจ๊หน่อยก่อน จึงจะยอมส่งของให้โดยต้องโอนให้จำนวน132,000บาทตนพร้อมจะส่งให้ทันทีโดยรถบันทุกจะส่งให้ถึงที่พรุ่งนี้ตอนเย็น
แต่ทางตนแจ้งเจ๊หน่อยไปว่า ตนมีเงินไม่พอจึงขอให้ส่งมาแค่ครึ่งเดียวก่อนคือ600กระสอบ โดยคิดเป็นเงินทั้งสิ้น132000บาทโดยตนได้โอนเงินมัดจำ 50,000บาทผ่านบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ ชื่อบัญชี นายสุรเดช เปรี่ยมสุวรรณ ในช่วงเวลประมาณบ่าย2โมงของวันที่14ธค.
แต่ต่อมา ทางเจ๊หน่อยติดต่อกลับมายังตนว่า ไม่สามารถส่งของให้ได้เพราะเงินมัดจำไม่ถึง50เปอร์เซน อ้างว่าไม่มั่นใจ ต้องให้ทางตนเองโอนเงินมัดจำเพิ่มอีก20,000บาท จึงจะส่งของให้ได้และอ้างว่าตอนนี้ของขึ้นรถเรียบร้อยแล้วโดยส่งรูปมาทางไลน์ให้ดู หากเงินมัดจำครบ70,000บาทจะส่งของให้ทันที ตนจึงเชื่อใจ และได้โอนเงินไปอีก20,000บาท
ต่อมาวันที่15ธันวาคม ตนติดต่อหาเจ๊หน่อยเพื่อจะสอบถามว่าของถึงไหนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย
และไม่นาน ทางน้องอิฟคนที่อ้างตนว่าเป็นเกษตรอำเภอติดต่อมาว่า ไม่สามารถจะรับมูลไก่ที่สั่งมาได้ เพราะสั่งไป1200กระสอบแต่ได้แค่600กระสอบ ตนจึงบอกว่าให้รับไปก่อนช่วยๆกันอีก600กระสอบจะตามมาทีหลัง น้องอิฟก็ตกลง แต่เวลาต่อมา ตนไม่สามารถติดต่อทั้งสองคนนี้ได้อีกเลยจนถึงเมื่อวาน ก็รู้แน่ชัดว่าโดนหลอก จึงนำเอกสารทั้งการโอนเงินภาพที่ทางคนร้ายส่งมาให้ตนดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธร อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ก่อเหตุหลอกลวงดังกล่าว
นายอภิวัตร บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ สังเกตุได้ชัดว่าคนร้ายกระทำเป็นกระบวนการโดยหลอกให้ผู้เสียหายเชื่อถือ โดยการอ้างว่าเป็นหน่วยงานภาครัฐ และอีกคนยังมีภาพของโรงงานที่นำมาแอบอ้างให้เหยื่อเชื่อถือและตายใจยอมโอนเงินให้ ตนจึงฝากเตือนไปยังทุกคนว่า อย่าหลงเชื่อโอนเงินให้ใครง่ายๆเพียงแค่เห็นผลกำไรที่จะได้รับ มิฉะนั้นอาจสูญเงินไปโดยง่ายๆเหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ตนต้องเสียเงินเก็บจากการทำงานของตัวเองไปถึง70,000บาท
…………………………………………………………………………..