ผวจ.กาญจน์ ออกประกาศคำสั่งละเอียดยิ๊บ ปชช.ที่เคยเข้าบ่อนพนัน จ.ระยอง จ.จันท์ จ.ตราด จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ และ กทม. รีบรายงงานตัวด่วน

ผวจ.กาญจน์ ออกประกาศคำสั่งละเอียดยิ๊บ ปชช.ที่เคยเข้าบ่อนพนัน จ.ระยอง จ.จันท์ จ.ตราด จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ และ กทม. รีบรายงงานตัวด่วน

ผวจ.กาญจน์ ออกประกาศคำสั่งละเอียดยิ๊บ ปชช.ที่เคยเข้าบ่อนพนัน จ.ระยอง จ.จันท์ จ.ตราด จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ และ กทม. รีบรายงงานตัวด่วน

วันนี้ 5 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้กำกันการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD -19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยง

ตามปรากฎว่าสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร จำนวนมากและขยายวงกว้างขึ้น โดยมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดสูง เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD -19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 (1) ข้อ 11 ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558ะ (ฉบับ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และมาตรา 22 (1) และ (7) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD – 19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยง
ข้างต้น ดังต่อไปนี้

1.กรณีประขาชนที่เดินทางมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยง นับแต่ได้ประกาศ
มาตรการนี้
1.1 ประสงค์จะพักในจังหวัดกาญจนบุรี จะต้องมีใบรับรองแพทย์และเอกสารรับรองการตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD – 19) โดยยืนยันว่าไม่พบเชื้อของโรคดังกล่าว และต้องไปรายงานตัวพร้อมเอกสารกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) ในพื้นที่ ซึ่งอาศัยอยู่ ภายใน 12 ชั่วโมง นับแต่เดินทางมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี หรือทราบหรือควรได้ทราบประกาศ

1.2ให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่รับรายงานตัวบุคคลตามข้อ 1.1 บันทีกรายละเอียดการเดินทางของบุคคลตามข้อ 1.1 ตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ แล้วให้นำส่งแบบรางานไปยังเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หรือโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่ ภายในวันที่ได้รับรายงานตัว หากได้รับรายงานตัวในช่วงกลางคืนให้นำส่งแบบรายงานในวันรุ่งขึ้น

1.3ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทำการคัดกรองโรคของบุคคลตามข้อ 1.1 ทุกคน แล้วให้ออกคำสั่งให้บุคคลตามข้อ 1.1 กักตัวเพื่อให้ให้คำแนะนำ ติดตาม สังเกต และบันทึกอาการทุกวัน

1.4 หากบุคคลตามข้อ 1.1 ที่ถูกสั่งให้กักตัวมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่อื่นนอกจังหวัดกาญจนบุรีมาก่อนครบกำหนดกักตัว ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการวัดไข้และประเมินก่อนที่จะให้เดินทางหากพบว่ามีอาการไข้เกิน 37.5 องศาเชลเชียส หรือมีความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID – 19) ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

1.5 หากพบว่ามีผู้ต้องกักตัว ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

2. กรณีประขาชนที่เดินทางมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยง ก่อนประกาศมาตรการนี้

2.1ให้ประชาชนที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้เข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 จนถึงวันที่ได้ประกาศฉบับนี้ โดยเป็นผู้เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยง ไปรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) ในพื้นที่ ซึ่งอาศัยอยู่ภายใน 12 ชั่วโมง นับแต่เดินทางมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี หรือทราบหรือควรได้ทราบประกาศ

2.2 ให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) ที่รับรายงานตัวบุคคลตามข้อ 2.1 บันทึกรายละเอียดการเดินทางของบุคคลตามข้อ 2.1 ตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ แล้วให้นำส่งแบบรายงานไปยังเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หรือโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่ ภายในวันที่ได้รับรายงานตัว หากได้รับรายงานตัวในช่วงกลางคืนให้นำส่งแบบรายงานในวันรุ่งขึ้น

2.3 ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทำการคัดกรองโรคของบุคคลตามข้อ 2.1ทุกคน หากพบว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD – 19) แล้ว ให้ออกคำสั่งให้บุคคลตามข้อ 2.1 กักตัวเพื่อให้คำแนะนำ ติดตาม สังเกต และบันทึกอาการทุกวัน ทั้งนี้ ตามแนวทาง (Flow Chart) แนบท้ายมาตรการนี้

2.4 กรณีบุคคลตามข้อ 2.1 ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทำการคัดกรองโรคแล้วไม่พบอาการหรือความเสี่ยงต่อการติตโรคเชื้อไวรัสโคโรน 2019 (COVD – 19) ให้สังเกตอาการตามแนวทางการเฝ้าระวังอยู่ที่บ้านหรือที่พัก โดยแยกพักอาศัยเป็นสัดส่วนจากบุคคลอื่น งดการอยู่ใกล้บุคคลอื่น เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร งดการไปที่สาธารณะ หรือสถานที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น งดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ซ้อน ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ ร่วมกับให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม เช่น หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ หากพบอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ หอบ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส ท้องเสีย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD – 19) ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลที่อยู่ในท้องที่ทันที

2.5 หากบุคคลที่ถูกสั่งให้กักตัวมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่อื่นนอกจังหวัดกาญจนบุรีก่อนครบกำหนดกักตัว ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการวัดไข้และประเมินก่อนที่จะให้เดินทาง หากพบว่ามีอาการไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีความเสียงต่อการป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

2.6 หากพบว่ามีผู้ต้องกักตัว ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

3.กรณีผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดกาญจนบุรี มาแบบไป – กลับ ทั้งมาติดต่อราชการหรือมาปฏิบัติภารกิจอื่นใดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

3.1 ผู้ที่เดินทางมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยง กรณีไป – กลับ ทั้งที่มาติดต่อราชการหรือมาปฏิบัติภารกิจอื่นใดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องบันทึกรายละเอียดการเดินทางตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ โดยให้หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร ผู้ดูแลสถานที่ และชุมชนทุกแห่ง ที่มีผู้เดินทางมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยง มาติดต่อราชการหรือเข้ามาในพื้นที่ เป็นผู้บันทึกข้อมูลและรวบรวมรายงานส่งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ที่เป็นที่ตั้งของหน่วยงาน หรือชุมชน ภายในวันที่บันทึกข้อมูลเพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูลสำหรับตรวจติดตามโรคตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

3.2 สำหรับผู้เดินทางมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยง ตามข้อ 1.1 ข้อ 2.1 และ
ข้อ 3.1 ที่ได้เข้าพักที่โรงแรม อพาร์ตเม้นท์ รีสอร์ต ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องบันทีกรายละเอียดการเดินทางตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ โดยให้เจ้าหน้าที่ของโรแรม อพาร์ตเม้นท์ รีสอร์ต ที่เข้าพักเป็นผู้บันทึกข้อมูลและรวบรวมแบบรายงานส่งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม อพาร์ตเม้นท์ รีสอร์ต ภายในวันที่บันทึกข้อมูลเพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูลสำหรับตรวจติดตามโรคตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

3.3 ให้เจ้าหน้ที่สรารณสุขที่รับผิดชอบพื้นที่ ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว รวมทั้งการสังเกตอาการ โดยคำนึงถึงหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทั้งนี้ หากบุคคลตามข้อ 1.1 ข้อ 1.2 และข้อ 1.3 มาพักค้างคืน ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบพื้นที่ทำการคัดกรองบุคคลดังกล่าวทุกวัน หากมีความจำเป็นต้องให้กักตัว ให้ออกคำสั่งกักตัวโดยเร็ว

3.4 หากบุคคลที่ถูกสั่งให้กักตัวมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางกลับก่อนกำหนดกักตัว ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการวัดไข้และประเมินก่อนที่จะให้เดินทาง หากพบว่ามีอาการไข้เกิน 37.5 องศาเชลเชียส หรือมีความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

3.5 ระหว่างที่บุคคลตามข้อ 3.1 หรือข้อ 3.2 พักอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องดำเนินการ ดังนี้ 3.5.1 ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา 3.5.2 เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยให้อยู่ห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1 เมตร 3.5.3 ลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่โดยการ Scan OR Code “ไทยชนะ” หรือบันทึกข้อมูลในแบบบันทึกข้อมูลที่สถานที่นั้น ๆ จัดไว้

3.6 หากพบว่ามีผู้ต้องกักตัว ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

4. ให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) ติดตาม คันหา ว่ามีบุคคลตามข้อ 1.1 ข้อ 2.1 และข้อ 3.1เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ หรือเข้ามาพักอาศัยในสถานประกอบการ โรงาน หรือสถานที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่หรือไม่ โดยเคร่งครัด หากพบว่ามีบุคคลตามข้อ 1.1 ข้อ 2.1 หรือข้อ 3.1 ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่เพื่อคัดกรองโรค แล้วบันทึกข้อมูลตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ทันที

5.ให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ดำเนินการ ดังนี้ 5.1 รายงานจำนวนบุคคลตามข้อ 1.1ข้อ 2.1 และข้อ 3.1 ต่อนายอำเภอทุกวัน ก่อนเวลา 18.00 น.และให้นายอำเภอรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีทุกวัน เวลา 18.00 น.จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

5.2 ประชาสัมพันธ์ให้คนในหมู่บ้านทราบว่ามีผู้เดินทางมาตามข้อ 1.1 ข้อ 2.1 ข้อ 3.1
และข้อ 4 พักอยู่กับครัวเรือนผู้ใด เพื่อให้บุคคลอื่นโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จะได้ถือปฏิบัติในการเว้นระยะห่าง

6.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหมู่บ้านประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้น เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรี ต้องดำเนินการ ดังนี้ 6.1 ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา 6.2 เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancng) โดยให้อยู่ห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1เมตร

6.3 หากพบว่ามีผู้ต้องกักตัว ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

7. ให้ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เข้มงวดลักลอบเล่นการพนันทุกประเภทในพื้นที่ จึงประกาศมาเพื่อทราบ และถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดต่อไป ทั้งนี้ ประกาศข้างต้นมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2564เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง./
/////////////////////////////////


ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม